ประวัติ

1981

Casiotone MT-40

ในปี 1985 เพลงฮิตสไตล์เร็กเกที่ดังไปทั่วโลก ได้ใช้หนึ่งในจังหวะพรีเซ็ตของ MT-40 อย่างเต็มรูปแบบ รูปแบบนี้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “Sleng Teng” โดยถูกกล่าวถึงในบทความของนิตยสารดนตรีที่ชื่นชมว่า Sleng Teng คือสิ่งที่เข้ามาปฏิวัติโลกของดนตรีเร็กเก อาจกล่าวได้ว่า MT-40 ที่ได้เริ่มปฏิวัติวงการเร็กเกที่ใช้เสียงคอมพิวเตอร์นั้น เป็นคีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมทางดนตรีรูปแบบใหม่

1981

Casiotone 701 (CT-701)

CT-701 มีฟังก์ชันการใช้งานเมโลดี้ไกด์โดยใช้ไฟ LED เพื่อแสดงให้ผู้เล่นทราบว่าควรกดแป้นคีย์ใดเพื่อเล่นเพลงที่ต้องการ สามารถโหลดเพลงใส่คีย์บอร์ดในรูปแบบของโน้ตผ่านบาร์โค้ดและเก็บไว้ในหน่วยความจำ ซึ่งนับว่าเป็นฟีเจอร์แรกของโลก CT-701 เกิดขึ้นจากแนวคิดใหม่ที่ไม่เหมือนเครื่องดนตรีอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งแม้แต่มือใหม่ก็สามารถเล่นได้อย่างง่ายดาย นับเป็นรุ่นบุกเบิกของฟังก์ชันแสดงไฟที่คีย์ และเริ่มต้นวิวัฒนาการของวิธีการโหลดเพลงที่ผู้ใช้ต้องการจะเล่น

1981

VL-1

1983

PT-50

1983

Symphonytron 8000

ด้วยการผสมผสานระหว่างคีย์บอร์ดสองชั้น คีย์บอร์ดแบบเหยียบ ฟังก์ชันประกอบ หน่วยความจำ และลำโพงขนาดใหญ่ คีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้เล่นดนตรีได้หลากหลายสไตล์ และสื่ออารมณ์ในการแสดงผ่านเสียงดนตรีให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นผลงานการคิดค้นเครื่องดนตรีขั้นสูงสุดของ Casio ในขณะนั้น

1984

CZ-101

CZ-101 มาพร้อม “แหล่งเสียง PD” ของ Casio ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อนำสู่การเปิดตัวของ Casio ในตลาดซินธิไซเซอร์ PD ซึ่งย่อมาจาก Phase Distortion ปรับเปลี่ยนเฟสของเวฟฟอร์มเพื่อสร้างโอเวอร์โทนที่ซับซ้อน ด้วยความสามารถที่ทำให้ทุกคนสร้างโทนเสียงได้อย่างง่ายดาย รุ่นนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนมากมายได้เพลิดเพลินกับซินธิไซเซอร์ ซึ่งในอดีตเคยใช้งานยากและมีผู้ใช้เพียงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเท่านั้น

1986

CPS-201

CPS-201 มีเทคโนโลยีการพัฒนาแหล่งเสียงที่ Casio ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้เสียงเปียโนที่เป็นธรรมชาติและไพเราะยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการตอบสนองตามสัมผัส ซึ่งช่วยให้เกิดการผสมผสานของไดนามิกเสียง ตามแรงนิ้วที่กดบนคีย์เช่นเดียวกับเปียโน ฟังก์ชันการทำงานอันยอดเยี่ยมที่สามารถแปลงเสียงเปียโนเป็นรูปแบบดิจิทัลทำให้รุ่นนี้ได้รับรางวัล Good Design Award ในประเทศญี่ปุ่น

1986

SK-1

SK-1 สามารถจับเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้างได้ เช่น เสียงของคนหรือเสียงของสัตว์เลี้ยง เพื่อนำมาประมวลผลและใช้เป็นเสียงประกอบในการแสดงดนตรี ด้วยความสามารถของฟังก์ชันแซมพลิง ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องอาศัยทักษะของผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ให้พร้อมใช้ได้สำหรับผู้ใช้ทุกคนทั่วโลก เครื่องดนตรีรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมและทำให้คีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ของ Casio เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกมากขึ้น รุ่นที่จำหน่ายมากกว่า 1 ล้านเครื่อง

1986

RZ-1

1986

DZ-SYSTEM

DZ-SYSTEM ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถใช้โทนเสียงที่หลากหลายของเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านการตีกลองดิจิตอล นี่ช่วยให้การเล่นกลองของ Casio สามารถใช้แหล่งเสียงของเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่มีพอร์ต MIDI ถึงแม้กลองจะถูกมองว่าเป็นเครื่องดนตรีสำหรับการสร้างจังหวะเท่านั้น แต่กลองไฟฟ้ารุ่นนี้สนับสนุนวิวัฒนาการของกลองให้กลายเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถแสดงดนตรีได้หลากหลายยิ่งขึ้น

1987

FZ-1

ซินธิไซเซอร์สร้างเสียงแซมเพลอร์ 16 บิตเครื่องแรกในญี่ปุ่น FZ-1 เป็นซินธิไซเซอร์ที่ดีที่สุดของ Casio ในขณะนั้นที่สามารถใช้เสียงแซมเพลอร์ 16 บิต ซึ่งเป็นเทคนิคล้ำยุคในสมัยนั้นเพื่อช่วยให้สามารถเล่นเสียงที่มีคุณภาพสูง และตอบโจทย์ความต้องการที่เข้มงวดแม้แต่กับนักดนตรีมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ซึ่งช่วยในการแก้ไขเวฟฟอร์มและสามารถปรับจูนได้เพื่อการใช้งานที่เหนือกว่า

1987

DG-10

DG-10 รูปทรงกีตาร์มีโทนเสียงเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด เช่น ออร์แกนแจ๊สหรือทรัมเป็ต เช่นเดียวกับรูปแบบจังหวะเดียวกับที่เคยมีอยู่ในคีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ของการแสดงดนตรีนอกเหนือจากความสามารถของกีตาร์แบบดั้งเดิม ลำโพงในตัวช่วยให้คุณสามารถเล่นดนตรีได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับแอมป์กีตาร์

1988

CDP-3000

จากแนวคิดของ “เปียโนเครื่องแรกของบ้าน” CDP 3000 ได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลดั้งเดิมของ Casio มาใช้เพื่อให้ความเพลิดเพลินกับเสียงเปียโนง่ายยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ใช้มีความคุ้นเคยกับเสียงที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น รุ่นนี้ใช้แหล่งเสียง Pulse Code Modulation (PCM) เพื่อจำลองโทนเสียงเปียโนต้นฉบับที่สวยงาม และกลไก Hammer Action เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติของการสัมผัสคีย์ นี่คือรุ่นที่วางมาตรฐานให้แก่เปียโนดิจิตอลของ Casio ซึ่งพัฒนาขึ้นสู่ระดับที่ดียิ่งขึ้นในปัจจุบัน

1988

VZ-1

1988

DH-100

DH-100 สามารถเล่นได้ด้วยนิ้วเหมือนกับรีคอร์เดอร์ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่สอนในโรงเรียน ใช้คีย์เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นระหว่างโน้ตแต่ละตัวเหมือนการเล่นแซ็กโซโฟน ทำให้เครื่องดนตรีรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคการเป่าที่ซับซ้อน เครื่องดนตรีนี้สามารถปรับเปลี่ยนเสียงได้ตามแรงเป่าของผู้เล่น นอกจากนี้ยังมีลำโพงในตัวที่ช่วยให้พกไปเล่นได้ทุกที่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญ เครื่องดนตรีไอเดียใหม่นี้ได้รับความนิยมสูง และยังมีแฟนพันธุ์แท้ถึงแม้เวลาจะผ่านมาแล้ว 30 ปีนับจากการเปิดตัว

1988

PG-380

1989

VZ-8M

1991

CELVIANO AP-7

AP-7 มี Advanced Piano (AP) และฟังก์ชัน Natural Hammer Action เพื่อมอบเสียงอะคูสติกและสัมผัสที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพของเปียโนโดยเฉพาะ นี่คือ CELVIO รุ่นแรกที่มีโหมดดิจิตอลที่ไม่เหมือนใครเพื่อความเพลิดเพลิน แตกต่างจากเปียโนทั่วไป แล้วยังมีเครื่องเล่นซีดีในตัวเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเปิดดนตรีประกอบจากวงออเคสตราได้ เป็นต้น ชื่อ CELVIANO เกิดจากการผสมคำ โดยคำว่า Cerveau (ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “สมอง” ) อิเล็กทรอนิกส์และเปียโน เพื่อถ่ายทอดความหมายของ “เปียโนดิจิตอลยุคใหม่ที่มีสมอง”

1994

ML-1

1995

GZ-5

GZ-5 มีตัวเครื่องกะทัดรัด น้ำหนักเบา พร้อมโทนเสียงพรีเซ็ตถึง 10 โทนและลำโพงในตัว คีย์บอร์ดรุ่นนี้ได้รับความนิยมในฐานะเครื่องมือสร้างสรรค์สำหรับนักแต่งเพลงและผู้เรียบเรียง และยังใช้กับดนตรีบนคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย เนื่องจากการใช้ดนตรีบนคอมพิวเตอร์ได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ซึ่งมาจากความนิยมของการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวในตอนที่เริ่มวางจำหน่าย GZ-5 จึงถูกใช้อย่างแพร่หลายจากทั้งนักดนตรีมือใหม่ไปจนถึงสตูดิโอเพลง และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานในฐานะรุ่นที่มียอดขายยาวนานถึง 20 ปี

1996

CTK-520L

CTK-520L เป็นคีย์บอร์ดรุ่นแรกที่มีฟังก์ชันแสดงไฟที่คีย์ โดยมีแสงไฟสีแดงจะสว่างขึ้นที่คีย์ (ทั้งสีขาวและดำ) บนคีย์บอร์ดรุ่นมาตรฐานซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับคีย์เปียโนจริง แสงไฟนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าต้องกดคีย์ใดในการเล่นเพลงที่มาในเครื่องร่วม 40 เพลง นอกจากนี้ยังมีระบบบทเรียนสามขั้นตอน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฝึกการเล่นเพลงผ่านคีย์ที่มีไฟสว่างเพื่อฝึกซ้อมระดับความยากได้สามระดับ ลบภาพการเล่นดนตรีที่จำเป็นต้องใช้เวลาฝึกซ้อมซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นระยะเวลานาน เพราะโมเดลนี้เป็นคีย์บอร์ดยุคใหม่ที่แม้แต่มือใหม่ซึ่งไม่มีไม่เคยเล่นดนตรีเลยก็สามารถสนุกสนานไปกับการเล่นดนตรีได้ทันที ด้วยการกดตามคีย์ที่มีแสงไฟสว่าง

1997

WK-1200

1998

CTK-660L

1999

CELVIANO AP-60R

2000

MZ-2000

คีย์บอร์ดแบบออลอินวันเครื่องนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมาย เช่นการนำเสนอโทนเสียงคุณภาพสูง 522 โทนจากแหล่งเสียง Zygotech Polynomial Interpolation (ZPI) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ในขณะนั้น ฟังก์ชัน Song Studio ซึ่งช่วยให้สามารถดึงโพสเกรสชันของคอร์ดจากข้อมูล MIDI ได้ และฟังก์ชัน Drawbar ที่ช่วยให้สามารถเล่นเสียงออร์แกนด้วยสไลเดอร์ทั้งเก้าได้ ด้วยความลงตัวระดับสูงในฐานะคีย์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นนี้จึงได้รับความนิยมจากแฟนพันธุ์แท้ทั่วโลก

2001

AL-100R

2003

Privia PX-100

“เทอะทะ หนัก ราคาแพง” มุมมองที่มีต่อเปียโนแบบดั้งเดิมเหล่านี้ถูกลบไปด้วย PX-100 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในโลก (ด้านความหนา) และน้ำหนักเบา* เมื่อครั้งเปิดตัว ด้วยความพิถีพิถันในการใส่ใจกับเสียงและคีย์บอร์ดรวมถึงขนาดที่กะทัดรัด ทำให้ Privia ออกแบบมาอย่างมีสไตล์ สำหรับหลายคนที่ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของเปียโน แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ยังไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ Privia จะทำให้ฝันของคุณเป็นจริง ตรงกับชื่อของรุ่นที่มาจากคำว่า “เปียโนส่วนตัว” (Private Piano ) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ผู้ใช้สามารถมีไว้ในห้องของตัวเองได้ การเปิดตัวของ Privia ทำให้มีการซื้อเปียโนดิจิตอลเพิ่มขึ้นอย่างมาก

※ จากการสำรวจเปียโนดิจิตอลที่มีคีย์แบบ Hammer Action 88 แป้นคีย์และลำโพงในตัวเมื่อปี 2003

2008

CELVIANO AP-400

2009

Privia PX-730

2012

XW-P1

XW-P1 มีโทนพรีเซ็ตถึง 620 แบบในฟังก์ชันเสียงต่างๆ เช่น Hex Layer สำหรับสร้างเสียงที่มีเลเยอร์และความลึก, Solo Synth สำหรับการสร้างเสียงของซินธิไซเซอร์แบบอะนาล็อกทั่วไป และ Drawbar Organ แล้วยังไม่รวมถึง 2,158 เวฟฟอร์มในตัว รุ่นนี้มอบวิธีสร้างสรรค์เสียงที่ใช้งานง่ายโดยสามารถควบคุมเสียงเหล่านี้ด้วยปุ่มและแถบเลื่อน และยังมีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อต่างๆ อีกมากมายในตัว

2012

XW-G1

2013

Privia PX-5S

เปียโนสำหรับการเล่นบนเวทีนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Privia ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ในรูปแบบเปียโนที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด ด้วยโทนเสียง 370 โทนซึ่งเต็มไปด้วยเสียงของวงดนตรีที่หลากหลายในโหมด Hex Layer, สไลเดอร์หกแถบ, สี่ปุ่มหมุน และสองวงล้อเพื่อการปรับการเปลี่ยนเสียงได้ง่าย เครื่องดนตรีนี้มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการแสดงดนตรีระดับสูงบนเวที ขณะเดียวกันก็สะกดสายตาด้วยสีขาวและสีน้ำเงิน และตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่างการทำงานด้วยแบตเตอรี่ คุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้รุ่นนี้เป็นคู่หูของนักดนตรีมืออาชีพที่ยังคงขายดีมาอย่างยาวนาน

2015

CELVIANO Grand Hybrid GP-500BP

จากการคิดค้นร่วมกับผู้ผลิตเปียโนสัญชาติเยอรมันอย่าง C. BECHSTIN ทาง Casio ได้ค้นคว้าและพัฒนาแกรนด์เปียโนสามหลังซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานโดยละเอียด แล้วรวมข้อมูลที่ได้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิตอลของ Casio เพื่อสร้างสรรค์ CELVIANO Grand Hybrid รุ่นที่จำลองเสียงและความก้องกังวานอันมีลักษณะเฉพาะของแกรนด์เปียโนได้อย่างละเมียดละไม ไดนามิกของคีย์บอร์ดกับคีย์ทำจากไม้ รวมถึงการเคลื่อนไหว และอื่นๆ อีกมากมาย คีย์บอร์ดรุ่นนี้พลิกโฉมความเชื่อเดิม ๆ ของผู้ใช้เปียโนระดับสูงที่ลังเลกับประสิทธิภาพของเปียโนดิจิตอล เช่น นักเปียโนมืออาชีพและครูสอนเปียโน โดยได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จนพวกเขาถึงกับแนะนำต่อให้ผู้ที่ปรารถนาจะเป็นนักเปียโนหรือนักเรียน

2015

XW-DJ1

2015

XW-PD1

2017

CTK-2550

2018

CELVIANO AP-470

2018

CT-X5000

CASIO ได้พัฒนา AiX Sound Source โดยอาศัยความเชี่ยวชาญจากการพัฒนาแหล่งเสียงบนคีย์บอร์ดตั้งแต่เริ่มเปิดตัวซินธิไซเซอร์ CT-X5000 ที่ยอดเยี่ยมนี้มาพร้อมโทนเสียงที่พรีเซ็ตไว้กว่า 800 โทน เช่น โทนเสียงเปียโน เครื่องสาย และกลอง และสามารถจำลองได้อย่างสมจริงแม้แต่ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาเวลาที่เครื่องดนตรีเหล่านั้นถูกเล่น คีย์บอร์ดมีลำโพงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อแสดงศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบของแหล่งเสียง พร้อมด้วยฟังก์ชันครบครัน รวมถึงฟีเจอร์อัตโนมัติ เหมาะสมกับการใช้งานทุกรูปแบบตั้งแต่การแสดงดนตรีไปจนถึงการสร้างสรรค์ดนตรี ในฐานะตัวเลือกแทนซินธิไซเซอร์ที่ราคาสูงและคีย์บอร์ดแบบออลอินวันที่มีราคาไม่แพงสำหรับรุ่นพกพา CT-X5000 ได้รับการยกย่องจากทุกคนทั่วโลกตั้งแต่หนุ่มสาวที่อยู่ในวงดนตรี ไปจนถึงมืออาชีพที่จัดการแสดงเดี่ยวในการเล่นที่มีหลายเครื่องดนตรี

2019

Privia PX-S1000

Casio ได้นำซีรีส์ Privia กลับสู่ต้นกำเนิด และขัดเกลาทุกแง่มุมเพื่อนำเสนอศักยภาพใหม่ล่าสุดของ Privia รุ่นนี้ ขณะที่ใส่ใจในการรักษาคอนเซ็ปต์ของ Privia ให้เป็น “เปียโน” Casio ก็ยังคงใส่ใจในการออกแบบที่กะทัดรัดที่สุดในโลก* เช่นเดิม ซึ่งเป็นความสำเร็จอันเกิดจากเทคโนโลยีการสร้างตัวเครื่องขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์หลายปี พร้อมด้วยวิสัยทัศน์และความหลงใหลในการออกแบบเครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนใคร การออกแบบที่ไม่เพียงแค่บางแต่ยังสวยงามทันสมัย PX-S1000 มีฟังก์ชันครบถ้วนรวมถึงการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth® ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเพลงโปรดไปพร้อมกันได้ ด้วยชื่อที่มาจากคำว่า “เปียโนส่วนตัว” (Private Piano) นี่คือเปียโนสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของเปียโนสักหลังมาตลอดแต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถทำได้ Privia เป็นเปียโนดิจิตอลที่จะเติมเต็มความต้องการแล้วยังเข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี

※ จากการสำรวจเปียโนดิจิตอลที่มีคีย์แบบ Hammer Action 88 คีย์และลำโพงในตัวโดย Casio เดือนกรกฎาคม 2019

※ *เครื่องหมายการค้าและโลโก้ Bluetooth® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Bluetooth SIG, Inc. และ CASIO COMPUTER CO., LTD. ใช้เครื่องหมายเหล่านี้ภายใต้ใบอนุญาต เครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าอื่นๆ เป็นเครื่องหมายการค้าหรือชื่อทางการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง