ภารกิจเพื่อการสร้างสรรค์คีย์บอร์ดที่เชิญชวนให้ทุกคนอยากเล่น
อันดับแรก คุณช่วยเล่าให้เราฟังได้ไหมว่าโปรเจ็กต์ CT-S1 เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร
Hiroshi Sato: เรามีเหตุผลสองข้อที่เริ่มต้นโปรเจกต์นี้ขึ้นมา อันดับแรก เราหวังที่จะสร้างที่สุดของคีย์บอร์ดที่ทุกคนสามารถหยิบขึ้นมาแล้วก็เริ่มเล่นได้เลย เรารู้สึกว่าทางเลือกในการเริ่มหัดเล่นคีย์บอร์ดนั้นมีน้อย เราจึงต้องการออกแบบเครื่องที่เราสามารถมองเห็นภาพของพวกเราเองเล่นอยู่ได้ ด้วยความที่เราไม่ต้องการสร้างสิ่งที่ดูแปลกไปจากเดิมมากเกินไป เราจึงเริ่มต้นโดยการพิจารณาสร้างคีย์บอร์ดมาตรฐานใหม่ที่สามารถเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ทุกคนอยากเริ่มเล่น
ประการที่สอง เราต้องการปรับแนวคิดเกี่ยวกับคีย์บอร์ดในฐานะเครื่องดนตรีที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงเครื่องดนตรีสำหรับแทนที่เปียโนอย่างที่เราคิดในบางครั้ง เป้าหมายของเราคือการสร้าง Casiotone ที่ใช้งานง่าย ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการเล่น พร้อมทั้งยังรวมเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ มากมายไว้ในเครื่องเดียว แนวคิดของ Casiotone 201 รุ่นแรก ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1980 ก็คือ “โลกที่แสนเพลิดเพลินแห่งเสียงที่งดงามและหลากหลาย” และเรายังคงยึดมั่นในแนวคิดเดิมในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึง Casiotone รุ่นแรก เราตระหนักได้ว่าแนวคิดนี้คือสิ่งที่จะต้องยึดมั่น แม้เวลาผ่านไปกว่า 40 ปี Casiotone รุ่นดั้งเดิมก็ควรจะยังคงส่งอิทธิพลต่อความเป็น Casiotone รุ่นปัจจุบัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์นี้

Hiroshi Sato
แผนกวางแผนผลิตภัณฑ์
หน่วยธุรกิจ EMI
ศูนย์วิจัยและพัฒนาฮามูระ
คุณเริ่มต้นกระบวนการในการปรับแนวคิดเริ่มต้นให้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างไร
Hiroshi: แน่นอนว่าการสื่อสารถึงไอเดียของคุณในครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่าย เราเริ่มต้นด้วยการให้ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์จัดทำภาพแนวคิดของ Casiotone โดยให้สอดคล้องกับพื้นที่ในการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ เราตกลงกันว่าผลิตภัณฑ์ควรจะออกมามีลักษณะอย่างไร จากนั้นจึงเริ่มคิดถึงวิธีที่เราจะสามารถผลิตสิ่งนี้ขึ้นมาได้จริงในจำนวนมาก การสื่อสารแนวคิดนี้ในรูปแบบที่ชัดเจนช่วยให้คนรอบข้างสามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้เช่นกัน

Shunsuke Oka
แผนกออกแบบขั้นสูง
หน่วยออกแบบ
สำนักงานใหญ่ด้านการออกแบบที่ 2
Shunsuke Oka: ในด้านของเวลา เรารู้สึกเหมือนกำลังจัดการกับคำขอของฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ แต่ที่จริงแล้วแรงผลักดันมาจากทีมออกแบบผลิตภัณฑ์
Hiroshi: วิสัยทัศน์ของทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ค่อนข้างใกล้เคียงกับของเรา เราจึงพูดคุยกับพวกเขาในทุกวัน บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่าไอเดียต่างๆ เริ่มต้นมาจากอะไร
มีเหตุผลอะไรที่ทีมวางแผนและทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องทำงานบนไอเดียเดียวกันไปพร้อมๆ กันไหม
Hiroshi: อย่างที่ผมได้พูดไป เรายังไม่สามารถสร้างคีย์บอร์ดที่เราต้องการจริงๆ ได้สำเร็จ เราสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผู้เล่นอายุมาก และคนกลุ่มอื่นๆ มามากมาย แต่เราต้องการพัฒนาสิ่งที่จะดึงดูดคนรักดนตรีทุกวัย รวมถึงผู้คนรุ่นเดียวกับเรา เราคุยกันเยอะมากถึงการกลับสู่สิ่งที่เป็นพื้นฐาน ในขณะที่เราเพ่งเล็งไปยังสิ่งที่เรากำลังมองหา
Shunsuke: แต่เดิม เราเน้นไปที่คีย์บอร์ดสำหรับนักดนตรีที่ต้องแสดงสด แต่เราคิดอยู่เสมอว่าเรายังไม่มีสิ่งที่สามารถคงแนวคิดแรกเริ่มของ Casiotone เอาไว้ได้ ซึ่งก็คือคีย์บอร์ดที่ทุกคนสามารถเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ยื่นข้อเสนอโดยคำนึงถึงแนวคิดนี้ และหลังจากที่ฝ่ายอื่นๆ ได้ลองพิจารณาแล้ว เราจึงเริ่มต้นทำตามข้อสรุปที่เห็นพ้องกัน
Hiroshi: เป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างแนวคิดขึ้นมา แต่ในตอนนั้นเราไม่สามารถเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นรูปธรรมได้ในด้านของต้นทุนและข้อควรพิจารณาในทางปฏิบัติอื่นๆ ทุกคนต่างพร้อมที่จะเดินออกจากห้องประชุมด้วยความฉุรเฉียวเนื่องจากไม่มีทางเลยที่จะสร้างการออกแบบนั้นขึ้นได้ในความเป็นจริง ถึงแม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ วิศวกรโครงสร้างของเรา Kouji ยังคงไม่ละความพยายามในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญ
กระบวนการออกแบบเชิงโครงสร้างมักจะเริ่มต้นที่จุดใด
Kouji Oshima: ในกระบวนการออกแบบเชิงโครงสร้าง เราจำเป็นต้องสื่อสารไม่เพียงแต่กับทีมออกแบบ แต่ยังรวมถึงทีมที่พัฒนาองค์ประกอบทางอะคูสติก เพื่อที่จะสร้างเสียงขึ้นมา ตัวเครื่องจำเป็นต้องมีพื้นที่ว่างอยู่ภายในระดับหนึ่ง แต่หากพื้นที่นั้นใหญ่เกินไป ผลิตภัณฑ์ก็จะดูขาดสมดุลในที่สุด ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีตัวเครื่องบางมากมาตั้งแต่แรกใช่ไหม
Shunsuke: ใช่แล้วครับ
Kouji: ราวกับว่าเอาไปทับด้วยรถบดถนน! ผมสงสัยเลยว่าจะใส่ลำโพงไว้ตรงไหนได้ สิ่งนี้ดูเท่ก็จริง แต่ผมต้องลำบากจนผมแทบร่วงเพื่อทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริง
Hiroshi: ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสมดุลระหว่างเสียงและการออกแบบ การออกแบบอาจจะยอดเยี่ยม แต่สิ่งนี้จำเป็นต้องมีเสียงที่ดีด้วย
Kouji: เมื่อ Shunsuke เห็นแบบร่างของเราเป็นครั้งแรก เขาก็พูดประมาณว่า “โอ้ คุณตัดส่วนนี้ออกไม่ได้เหรอ” คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ! (หัวเราะ)
Shunsuke: ผมต้องกลับมาบอกกับเขาเรื่อยๆ ว่า “ผมเจอส่วนที่เราไม่ต้องการอีกแล้ว!” (หัวเราะ)

Kouji Oshima
ส่วน-22
แผนก-2
หน่วยพัฒนากลไก
สำนักงานใหญ่ด้านการพัฒนา
คุณสร้างสมดุลระหว่างการออกแบบที่บางขนาดนี้กับโครงสร้างภายในที่เหมาะสมอย่างไร
Kouji: ด้วยระบบเบสรีเฟล็กซ์ คุณจำเป็นต้องมีโครงครอบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ กล่องลำโพงในคีย์บอร์ดรุ่นนี้มีรูปทรงคล้ายรองเท้าบูท ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่ นอกจากนี้ ลำโพงหลักและพอร์ตเบสรีเฟล็กซ์ยังหันหน้าไปในทิศทางที่แตกต่างกันอีกด้วย ด้วยการปรับแต่งเช่นนี้ เราจึงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับลำโพง ในขณะที่ยังรักษาความบางเฉียบของคีย์บอร์ดไว้ได้ แน่นอน ในความเป็นจริงแล้วมีอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก ผมมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ของลำโพงที่เล็กลง และผมจำได้ว่าผมยื่นสิ่งนี้ให้กับทีมอะคูสติกโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ หลังผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาก็กลับมาหาผมและบอกว่า “คุณทำให้มันเล็กลงเหรอ!” พวกเขารู้ทันผมแล้ว (หัวเราะ)
Hiroshi: โดยปกติ ลำโพงแบบเบสรีเฟล็กซ์จะถูกติดตั้งในแนวตั้ง แต่การออกแบบนี้วางลำโพงในโครงสร้างแนวนอนแบบใหม่ นอกจากนี้ ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ยังไม่อยากให้ปรับเปลี่ยนอะไรกับตัวตาข่ายลำโพง เนื่องจากพวกเขาต้องการให้สิ่งนี้มีรูปลักษณ์ในแบบที่ตั้งใจไว้ (หัวเราะ)
Kouji: พวกเขาไม่ยอมผ่อนปรนในเรื่องนี้เลยใช่ไหม (หัวเราะ)
Hiroshi: นอกจากนี้เรายังต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น การสูญเสียเสียงและต้นทุน Kouji ได้มองหาซัพพลายเออร์รายใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มักจะเป็นไปไม่ได้ในกรอบเวลาที่จำกัดเช่นนั้น ท้ายที่สุด ด้วยการที่เขาพยายามมากเป็นพิเศษ เราก็สามารถทำโปรเจ็กต์นี้ให้เสร็จสิ้นได้ทันเวลาอย่างเฉียดฉิว เราทำสำเร็จเนื่องจากเรามีวิสัยทัศน์ที่ตรงกันในด้านความสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เริ่มต้น ทุกคนรู้ว่าทุกอย่างคงเปล่าประโยชน์ นอกเสียจากเราจะทำสิ่งที่เราตั้งใจให้สำเร็จ

การทำดีไซน์แบบมินิมอลให้เป็นจริงผ่านการทดลองและความมานะอุตสาหะ
คุณได้อ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์ใดหรือไม่ในขณะที่คุณสร้างดีไซน์นี้ขึ้นมา
Shunsuke: เราต้องการให้เสียงออกมาดีในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านที่มีการเล่นคีย์บอร์ด และเช่นเคย สิ่งนี้จะต้องเป็นเครื่องดนตรีที่ทุกคนอยากจะเล่น ผมมีความคิดที่จะใช้ผ้าในแบบที่คุณพบได้ในเบาะนวมหรือโซฟา เพื่อให้คีย์บอร์ดผสมกลมกลืนเข้ากับห้องโดยสมบูรณ์ เมื่อเราพิจารณาคุณสมบัตินี้ เราก็นึกถึงลำโพงแบบยาว หรือที่เรียกว่า “ซาวด์บาร์” ในชุดโฮมเธียเตอร์และระบบที่คล้ายกันนี้ ผมพูดคุยกับผู้คนจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ตาข่ายลำโพงชนิดยาวนี้ แต่พวกเขาบอกผมว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งนี้ยาวเกินไป และจะว่าไปแล้ว ไอเดียเรื่องการใช้ผ้าที่ผมกล่าวไปนั้นแปลกใหม่และแหวกแนวเกินไป···
Kouji: ผ้าชนิดนั้นหนาเกินไปจนเสียงไม่สามารถลอดผ่านได้ นั่นคือปัญหา
Shunsuke: เราเริ่มค้นหาว่าเราจะสามารถหาผ้าชนิดอื่นซึ่งมีความโปร่งในทางอะคูสติกมากกว่าได้จากที่ไหน
Hiroshi: เรามีตัวเลือกอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพบตัวเลือกที่ตรงตามเกณฑ์ทั้งสามข้อ ได้แก่ ความโปร่งทางอคูสติก ต้นทุน และดีไซน์

Shunsuke: ในขั้นแรก เราค้นหาวัสดุตาข่ายลำโพงแบบทั่วไปซึ่งรับประกันได้ว่ามีความโปร่งทางอะคูสติกอย่างแน่นอน แต่เราไม่สามารถค้นพบสิ่งที่จะใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมของชีวิตประจำวันที่เราตั้งใจไว้ ดังนั้น ผมจึงไปที่ร้านขายผ้าเพื่อซื้อผ้ามาบางส่วน และอธิบายให้ทุกคนทราบถึงสิ่งที่เราต้องการทำ แม้ว่าผ้าชนิดดังกล่าวนั้นจะไม่ได้มีความโปร่งทางอะคูสติกเลยก็ตาม ผมถามว่าเราจะค้นหาผ้าที่เหมาะสมที่มีดีไซน์ใกล้เคียงกันได้หรือไม่ นั่นคือที่มาของการใช้ผ้าคอตตอนปิเก้อย่างที่เห็นกันในวันนี้ สิ่งนี้คือผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ขั้นตอนของการย้อม ในที่สุดเราก็สามารถสร้างเนื้อผ้าที่มีลวดลายเช่นนี้ให้กับผลิตภัณฑ์ เราต้องทำการดัดแปลงหลายครั้งกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายใช่ไหม

Hiroshi: ใช่แล้วครับ ณ จุดหนึ่งเรามีลวดลายมากมายจนผมไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด (หัวเราะ) เราเริ่มพูดคุยกันไม่เพียงแต่เกี่ยวกับตัวผ้า แต่ยังรวมถึงวิธีการย้อมด้วย ในตอนนั้นคุณมีเรื่องให้กวนใจมากมายเลยนะครับ Kouji แต่คุณก็ไม่ยอมแพ้
Kouji: ผ้านี้เป็นผ้าชนิดพิเศษที่โดยปกติแล้วทางซัพพลายเออร์ไม่ได้ผลิต แต่ผมอธิบายไปว่าดีไซเนอร์ต้องการลวดลายจุด และขอให้พวกเขาสร้างสิ่งที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวขึ้นมา ผมคิดว่าพวกเขาจะสร้างลวดลายจุดได้ด้วยการทอเส้นด้ายสีเข้มกับสีอ่อนเข้าด้วยกัน แต่วิธีนั้นไม่ได้ผล ในที่สุดเราก็ต้องอาศัยวิธีย้อมสีที่เฉพาะเจาะจง และเราต้องค้นหาเส้นด้ายที่เหมาะสมที่สุดหรืออุณหภูมิที่ใช้ เราจึงต้องทำการวิจัยมากมายหลายครั้ง ท้ายที่สุด ซัพพลายเออร์ของเราต้องลองผิดลองถูกอย่างยาวนานกับวิธีการที่เป็นรูปแบบใหม่โดยสิ้นเชิง และเราก็ได้ลวดลายแบบที่เรามองหา
Shunsuke: Kouji ช่วยเราในทุกเรื่องที่เราขอ ไม่ว่าจะมีรายละเอียดมากแค่ไหน ส่วนสำคัญของความสำเร็จของเรามาจากความพยายามของทีมออกแบบเชิงโครงสร้าง
Hiroshi: ทุกวันนี้ เมื่อผมเห็นเสื้อโปโลของผมที่บ้าน ผมจะคิดถึงชนิดของผ้าที่ใช้ในการผลิต “ผ้าคอตตอนแบบปิเก้” ผมคิดในใจ (หัวเราะ)
ทำไมคุณถึงตัดสินใจทำผลิตภัณฑ์ออกมาสามสี
Hiroshi: ในตอนแรก เราต้องการผลิตเฉพาะเวอร์ชันสีดำเท่านั้น แต่ทีมออกแบบกลับมาหาเราและพูดในเชิงบังคับว่าเราไม่สามารถนำเสนอทางเลือกเพียงสีเดียวได้ เมื่อพิจารณาถึงแนวคิดของความเข้ากันกับไลฟ์สไตล์และความเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่ภายในบ้าน
Kouji: พวกเขาค่อนข้างจะยืนกรานในเรื่องนี้ใช่ไหมครับ วันที่เรากำลังเดินทางไปตรวจสอบแบบจำลองดีไซน์ด้วยกัน พวกเขานำเสนอตัวเลือกสีให้กับเราอย่างหลากหลาย
Shunsuke: นอกจากแบบจำลองแล้ว ผมยังได้ทำโปสเตอร์เพื่อแสดงสีต่างๆ และนำสิ่งนี้ไปด้วย ผมนำเสนอสิ่งนี้ในแบบกองโจรเพื่อแสดงให้เห็นว่าหากธีมของโปรเจกต์คือความกลมกลืนกับพื้นที่ภายในบ้าน การใช้สีที่มากขึ้นจะเพิ่มอิมแพคอย่างแน่นอน และผู้คนจะสามารถจินตนาการภาพคีย์บอร์ดที่กำลังถูกเล่นอยู่ได้ง่ายขึ้น เราจึงตัดสินใจสร้างเวอร์ชันสีอื่นๆ เพิ่มเติมในตอนนั้นเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเราบอก Kouji และทีมออกแบบเชิงโครงสร้างให้ใช้สีใหม่เหล่านี้ในนาทีสุดท้าย···
Kouji: เราแทบไม่เชื่อหูของเราเลย! (หัวเราะ)
Hiroshi: เราได้แรงบันดาลใจจากสีของกีตาร์ไฟฟ้าและเครื่องดนตรีวินเทจ แนวคิดนี้นำมาซึ่งผลสืบเนื่องของการจับคู่เสียงกับรูปลักษณ์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น ผมได้เพิ่มเสียงของเปียโนและออร์แกนไฟฟ้าแบบวินเทจลงไปเพราะว่าสีแดง
Shunsuke: ใช่แล้ว เป็นสีแดงที่มีสีเหลืองแทรกอยู่เล็กน้อย
Hiroshi: พวกเขามอบเฉดสีที่เราต้องการให้กับเรา

กระบวนการออกแบบเชิงโครงสร้างมักจะเริ่มต้นที่จุดใด
Kouji: แม้ผมจะไม่ได้เป็นนักออกแบบเครื่องดนตรีมายาวนานมากนัก แต่งานอื่นๆ ของผมต้องอาศัยแนวคิดของการสร้างดีไซน์ที่ “บาง เบา สั้น และเล็ก” นั่นคือเหตุผลที่เราพยายามสร้างตัวเครื่องของคีย์บอร์ดให้เล็กที่สุดตั้งแต่ต้น โดยร่วมงานกับทีมอคูสติกเพื่อคิดค้นโครงสร้างที่จะไม่ลดทอนประสิทธิภาพของเสียง ผมกำลังพูดถึงโครงครอบ (กล่องลำโพง) ที่ผมได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ ลำโพงหลักหันขึ้นด้านบน และพอร์ตเบสรีเฟล็กซ์ก็มักจะหันไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ วิธีนั้นจะทำให้เราไม่เหลือพื้นที่สำหรับแผงวงจร ผมต้องกระตุ้นทีมสร้างวงจรให้ทำแผงวงจรให้มีขนาดดังเช่นปัจจุบันให้ได้ ดูเหมือนพวกเขาจะคิดว่า “พื้นที่มันเล็กเกินไป!” มีเสียงบ่นมาบ้างเกี่ยวกับการสร้างวงจรให้มีขนาดเล็กมาก (หัวเราะ) เราปรึกษาทีมอะคูสติก และหันพอร์ตลงด้านล่าง ลดขนาดของกล่องลำโพง และวางแผงวงจรลงไปในนั้น ทำให้เราได้ขนาดที่กะทัดรัดตามที่ต้องการ
Shunsuke: นอกจากนี้เรายังใส่ใจในรายละเอียดของด้านล่างตัวเครื่องอย่างมาก เราทำให้คีย์บอร์ดสามารถถือได้ง่าย แต่บางครั้งเมื่อคุณหยิบสิ่งนี้ขึ้นมา คุณจะเห็นด้านล่างของตัวเครื่อง นั่นคือเหตุผลที่เราสร้างลวดลายรูปคลื่นที่ด้านหลังและทำรูให้ตรงกับรูปคลื่น เพื่อให้ลวดลายเหล่านี้ดูเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์
แล้วยังมีหมุดสำหรับยึดสายสะพายที่ด้านหลังด้วยใช่ไหม

Hiroshi: เมื่อพูดถึงเครื่องดนตรี คุณจำเป็นต้องมีที่สำหรับการยึดสายสะพายเหล่านี้ การที่เราต้องการสร้างคีย์บอร์ดรุ่นนี้ให้กะทัดรัดที่สุด เราได้พยายามสร้างให้คีย์บอร์ดสร้างใช้งานได้หลากหลายเหมือนกับกีตาร์และเครื่องเป่า ในด้านของความสะดวกในการหยิบขึ้นมาเพื่อเริ่มเล่น ด้วยการยึดสายสะพายกีตาร์แบบมาตรฐานเข้ากับคีย์บอร์ด คุณก็สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องมีโต๊ะหรือขาตั้ง คุณสามารถเล่นสิ่งนี้ได้แม้ในขณะนั่งบนโซฟาหรือเตียงนอน สายสะพายจะช่วยให้คีย์บอร์ดมั่นคง สายสะพายช่วยให้คุณมีอิสระในการเล่นคีย์บอร์ดในหลากหลายตำแหน่งและสถานการณ์ โดยไม่ต้องยึดติดกับสถานที่เดียว
Shunsuke: อันที่จริง เฉพาะรุ่นสีขาวเท่านั้นที่มีหมุดยึดสายสะพายสีเงิน รุ่นสีดำและสีแดงจะมีหมุดสีดำ
Hiroshi: เราพยายามอย่างมากที่จะทำให้แต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ แม้ว่าเราจะค่อนข้างเข้มงวดกับการมีลักษณะที่สอดคล้องกันของคีย์บอร์ดทั้งหมด
Shunsuke: ตัวอย่างเช่น ผ้าสักหลาดที่ฐานของคีย์จะมีสีที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น รุ่นสีขาวมีผ้าสักหลาดสีน้ำตาล รุ่นสีดำมีผ้าสักหลาดสีแดง และรุ่นสีแดงมีผ้าสักหลาดสีน้ำตาลเข้ม
Kouji: ในตอนแรก ผมสงสัยว่าทำไมเราจึงไม่ใช้สีเดียวกันในทุกรุ่นไปเลย (หัวเราะ) ทางทีมต้องทำงานหนักเพื่อค้นหาสีที่เหมาะสมกับแต่ละรุ่น
คุณสร้างสมดุลระหว่างดีไซน์กับประโยชน์ใช้สอยอย่างไร
Hiroshi: เราเน้นไปที่ความเรียบง่ายของอินเทอร์เฟซผู้ใช้ เช่นเดียวกับที่เราทำในแนวความคิดการออกแบบ โดยที่ปุ่มจะเรียงตัวกันเป็นแถว และคุณสามารถเลือกเสียงต่างๆ ตามลำดับจากด้านซ้าย โครงสร้างของสิ่งนี้ก็มีเท่านี้ ดีไซน์แบบมินิมอล ซึ่งรวมถึงการมีปุ่มจำนวนน้อย ทำให้คีย์บอร์ดนี้ไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ และกลายเป็นสิ่งที่สามารถผสมกลมกลืนกับพื้นที่ภายในบ้านของคุณ


Shunsuke: ในด้านของการออกแบบ เรายังต้องการรักษาทุกสิ่งให้เรียบง่ายและลดสิ่งรบกวนสายตาให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้เล่นสามารถโฟกัสกับดนตรีได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น ข้อความเหนือปุ่มกดไม่ได้ใช้ฟอนต์ตัวหนา แต่เป็นฟอนต์ที่บางและแคบ แต่เราไม่ได้คิดว่าการตัดทอนและลดความซับซ้อนของดีไซน์จะเพียงพอ ตัวอักษรสลักคำว่า Casiotone ที่ด้านขวามีความลึกกว่าปกติถึงสามเท่า ฐานของคีย์มีลวดลายรูปคลื่น และปุ่มกดก็สูงกว่าเครื่องดนตรีอื่นๆ ในขณะที่เรารักษาทุกอย่างให้เรียบง่าย เราพยายามเน้นคุณค่าทางอารมณ์ของเครื่องดนตรีผ่านรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้
Kouji: คุณค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดมากเลยนี่ครับ
Shunsuke: ผมเล่นคีย์บอร์ดไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่ผมคิดว่าสาเหตุที่ผมได้รับมอบหมายให้ดูแล CT-S1 คือการออกแบบสิ่งนี้เพื่อให้ผู้คนอย่างผม ที่เล่นสิ่งนี้ไม่เป็นเลย อยากจะเริ่มเล่นอย่างจริงจัง ผมพิจารณาอย่างตั้งใจว่าดีไซน์นั้นมีความมินิมอลมากแค่ไหนและใช้งานได้ง่ายเพียงใด ผมไม่ต้องการให้สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะเล่นได้ยากเกินไป แม้ในมุมมองของผมก็ตาม

Hiroshi: ปุ่มให้สัมผัสที่น่าพึงพอใจเมื่อคุณกดสิ่งนี้ลงไป และปุ่มปรับความดังเสียงก็มีความแน่นกว่ารุ่นอื่นๆ เล็กน้อย ให้ความรู้สึกคล้ายระบบเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์
Kouji: เราใส่ใจปุ่มปรับความดังเสียงอย่างมาก อย่างที่คุณ Hiroshi กล่าวไป ผลิตภัณฑ์ด้านเสียงระดับไฮเอนด์ให้สัมผัสที่ลื่นไหลและมีน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้าของเรา ถูกออกแบบให้มีสัมผัสแบบน้ำหนักเบา แต่เมื่อเรานึกถึงกลุ่มเป้าหมายสำหรับรุ่นนี้ เราคิดว่าสิ่งนี้คงจะดีหากผลิตภัณฑ์จะให้สัมผัสที่หนักและละเอียดอ่อนมากขึ้น เราจึงร่วมงานกับผู้จำหน่ายของเราเพื่อปรับแต่งคีย์บอร์ด
Shunsuke: ในรุ่นสีดำ แม้แต่กรอบวงกลมที่ด้านนอกของไฟ LED บนปุ่มก็จะหายไปเมื่อไฟดับอยู่ เราพยายามทำให้สิ่งนี้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อันที่จริง เราต้องการลดสิ่งรบกวนสายตาลง
Kouji: คุณขอให้ผมทำกรอบด้านนอกของชิ้นส่วนที่ส่องแสงให้มองไม่เห็นในขณะปิดเครื่อง ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดูไร้เหตุผลสำหรับผม (หัวเราะ) คุณต้องการใช้พลาสติกแทนที่จะเป็นยางสำหรับปุ่มต่างๆ และต้องการตัวเลือกที่แพงกว่า
Shunsuke: ปุ่มยื่นออกมามากเกินไป ทำให้ LED ไม่สว่างพอ
Kouji: ใช่ครับ สิ่งนี้ไม่สว่างเพียงพอ โดยเฉพาะในรุ่นสีขาว เมื่อเรานำเสนอสีให้เลือกอย่างหลากหลาย เราจะใช้ชิ้นส่วนเดียวกันจากแม่พิมพ์หล่อเดียวกัน แต่ในครั้งนี้เราต้องเปลี่ยนแปลง เราสร้างแม่พิมพ์หล่อที่แตกต่างกันสำหรับปุ่มของรุ่นสีขาว สีแดง และสีดำ
Hiroshi: มีหลายสิ่งที่เราทำเป็นพิเศษเพื่อ CT-S1 เราทำการปรับแต่งโดยคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ใช้ระหว่างการใช้งานเครื่องดนตรีในแต่ละรูปแบบ ช่างน่าทึ่งจริงๆ ที่เราใส่ใจรายละเอียดมากขนาดนี้ ผมบอกไปว่าสิ่งนี้คือเครื่องดนตรีที่เรียบง่าย แต่การสร้างสิ่งนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้ง่ายเลย (หัวเราะ)
เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมาย คีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่จะก้าวข้ามเส้นชัย
คุณเปลี่ยนผ่านจากการออกแบบด้านรูปลักษณ์ไปสู่การสร้างเสียงคุณภาพสูงที่พบใน AiX Sound Source อย่างไร
Hiroshi: AiX ย่อมาจาก “Acoustic Intelligent multi-eXpression” ซึ่งหมายถึงเสียงที่สมจริงซึ่งเปี่ยมด้วยรายละเอียดที่ถ่ายทอดมาจากแต่ละเครื่องดนตรี ตัวอย่างเช่น สำหรับเปียโน เราใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพการประมวลผลของ AiX Sound Source เพื่อจัดการกับรูปแบบคลื่นเสียงจำนวนมหาศาล ทำให้เราสามารถสร้างเสียงที่เต็มอิ่มและสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน สำหรับออร์แกนและเปียโนไฟฟ้า เราใช้ขุมพลังดังกล่าวเพื่อจำลองแอมป์และเอฟเฟกต์โดยการใส่ใจในรายละเอียดขั้นสุดเพื่อสรรค์สร้างเสียงที่สมจริงที่สุด
CT-S1 มีชุดโทนเสียงพิเศษที่ชื่อว่า ADVANCED TONES

Hiroshi: ADVANCED TONES คือชุดโทนเสียงที่เราใช้ความพยายามอย่างสูงในการสร้าง และเราให้คำจำกัดความเสียงเหล่านี้ว่า “เสียงที่เอื้อต่อการแสดงในรูปแบบที่สดใหม่” โดยใช้ AiX Sound Source เป้าหมายของเราคือการสร้างเสียงที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะการเล่นของคุณผ่านไดนามิกของการเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเล่นโน๊ตตัวเดียวหรือเล่นคอร์ด
ตัวอย่างเช่น หนึ่งใน ADVANCED TONES มีชื่อว่า MAGNI SYNTH-PAD เมื่อคุณเล่นโน้ตตัวเดียว เสียงของเปียโนและซินธ์จะเปล่งขึ้นพร้อมกัน แต่เมื่อคุณเล่นคอร์ดอย่างมีพลัง เสียงของซินธ์แพดจะดังขึ้นในทันที เพื่อสร้างบรรยากาศของเสียงที่แปลกใหม่เหนือจินตนาการ แม้แต่เสียงโทนเดียวก็สามารถแสดงออกได้หลากหลายแบบ และผลที่ได้ก็น่าหลงใหลอย่างมาก ผมคิดว่าสิ่งนี้แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้พัฒนาอย่างแท้จริง
นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างเสียงเปียโนไฟฟ้าใน ADVANCED TONES อย่างมาก ในตอนแรก เราต้องการสร้างเสียงที่โดดเด่นด้วยการใส่เอฟเฟกต์เฟเซอร์เยอะๆ เมื่อเราให้นักดนตรีมืออาชีพมาลองเล่น พวกเขาบอกว่าในทางปฏิบัติพวกเขามักจะใช้เสียงที่ประณีตกว่านี้ เราจึงลดเอฟเฟกต์ลงเพื่อให้ได้เสียงที่นุ่มนวลและสุขุมยิ่งขึ้น ผมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากมายจากนักดนตรี จนผมคิดว่านักออกแบบเสียงอาจจะยอมแพ้ไปก่อนที่จะจบโปรเจกต์ แต่ในท้ายที่สุด เสียงตอบรับของนักดนตรีมืออาชีพนั้นดีเกินคาด ผมแทบจะร้องไห้เมื่อได้ยินนักดนตรีเล่นผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ CT-S1 ยังมีเสียงจากเครื่องดนตรีวินเทจของ Casio ซึ่งมีชื่อว่า CASIO CLASSIC TONES
Hiroshi: เราผลิตเครื่องดนตรีไฟฟ้ามามากกว่า 40 ปี เครื่องดนตรีเหล่านี้จำนวนมากยังคงเป็นที่รักของนักดนตรี เราจึงรวมเสียงเหล่านี้ไว้ด้วยเพื่อเป็นการกลับสู่รากเหง้าของเรา นอกจากเสียงของซินธิไซเซอร์ดิจิตอลรุ่น CZ และ VZ อันเป็นที่รักของใครหลายๆ คน เราได้เลือกเสียงที่สามารถใช้งานในวงการดนตรีปัจจุบันได้ เช่น เสียงจาก VL-1 ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างน่าประหลาด และเสียงเปียโนไฟฟ้าของ Casiotone รุ่นแรกอย่าง 201 ผู้พัฒนาบางส่วนจากในช่วงเวลานั้นยังคงทำงานอยู่กับบริษัท เราขอให้ตำนานเหล่านี้ส่งต่อความรู้ถึงเราในขณะสร้างคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ตัวอย่างเช่น บุคคลที่สร้างเสียง “SeeGod” สำหรับ VZ-1 ก็อยู่ในทีมของเราด้วย เมื่อผมเล่นสิ่งนี้บนคีย์บอร์ดรุ่นดั้งเดิม เสียงนี้ช่างงดงามเหลือเกิน ราวกับว่าเสียงนี้ได้บ่งบอกชื่อของตัวเอง ให้ความรู้สึกแบบเมทัลลิกที่เยือกเย็น แต่มีเสียงไพเราะมาก ราวกับผมได้เห็นพระเจ้าจริงๆ! (หัวเราะ) อย่างไงก็เถอะ ผมคิดว่าเสียงนี้คือเสียงที่ยอดเยี่ยม เราจึงรวมเข้าไปด้วย

คีย์บอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดนี้คือเครื่องดนตรีที่ง่ายต่อผู้เริ่มต้นในการเล่น แต่ก็มีเสียงที่เซียนผู้คลั่งไคล้คีย์บอร์ดสามารถเพลิดเพลินได้ด้วย
Hiroshi: เราไม่เคยใส่เสียงจำนวนมากลงในคีย์บอร์ดรุ่นเดียวมาก่อน จนกระทั่งตอนนี้ เราต้องการให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในระดับหนึ่งสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นคีย์บอร์ดรุ่นนี้ด้วย และเราคิดว่าการเพิ่มเสียงลงไปจะดึงดูดผู้คนเหล่านี้ได้มากขึ้น เสียงของ VL-1 นั้นน่าสนใจ และสิ่งนี้สนุกในการเล่นคอร์ดด้วยมือซ้ายและเมโลดี้ด้วยมือขวา ซึ่งเป็นเหมือน “คุณสมบัติลับ” เนื่องจาก CT-S1 นั้นมีทั้งหมด 61 คีย์เมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดขนาดเล็กของ VL-1 รุ่นดั้งเดิม
เห็นได้ชัดเลยว่ามีการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ มากมายในการสร้างผลิตภัณฑ์นี้
Hiroshi: ถูกต้องครับ ในหลายๆ ครั้งเราก็แทบจะเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แม้เราจะถูกกดดันด้วยเวลา แต่เราก็ขอให้ทางวิศวกรทดลองไอเดียใหม่ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อยกระดับคุณภาพให้ถึงระดับที่เป็นอยู่นี้ เราทั้งสามคนเป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์นี้ แต่ผมรู้สึกอย่างแท้จริงว่าความสำเร็จของเรามาจากความหลงใหลของผู้คนมากมายที่อาจจะไม่ได้มาอยู่กับเราในวันนี้
คุณคิดอย่างไรกับเครื่องดนตรีที่เสร็จสมบูรณ์แล้วชิ้นนี้
Shunsuke: ผมคิดอยากจะซื้อมาไว้ฝึกเล่นสักเครื่อง! ผมอยากเล่นคีย์บอร์ดมานานแล้ว และในที่สุดผมก็ค้นพบคีย์บอร์ดที่ผมอยากจะเป็นเจ้าของ ผมเชื่อว่าความพยายามของทุกคนรวมกันนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
Kouji: เกือบสองปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวเปียโนดิจิตอลซีรีส์ Privia PX-S ซึ่งก็ค่อนข้างบาง และเราคิดว่าสิ่งนี้จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างปรากฏการณ์ ผมดีใจที่เราสามารถผสมผสานขนาดที่กะทัดรัด ความเรียบง่าย และการออกแบบที่ยอดเยี่ยมไว้ใน CT-S1 คีย์บอร์ดที่หลุดไปจากความดั้งเดิมอย่างแท้จริง
Hiroshi: ด้วยการพยายามสร้างขนาดที่กะทัดรัดและลดจำนวนองค์ประกอบให้น้อยที่สุด เราจึงสามารถสร้างเสียงในระดับที่น่าประทับใจได้ในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด ผมคิดว่านี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเล่นคีย์บอร์ด อย่างที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ผมต้องการสร้างโลกซึ่งคีย์บอร์ดแบบพกพาสามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกีตาร์หรือเครื่องเป่า
คุณคิดอย่างไรกับเครื่องดนตรีที่เสร็จสมบูรณ์แล้วชิ้นนี้
Kouji: แม้คีย์บอร์ดรุ่นนี้จะเรียบง่าย ผมคิดว่าเราได้สร้างคีย์บอร์ดแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมหวังว่าผู้ใช้จะสนุกกับการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในห้องนั่งเล่นหรือที่ใดก็ตามภายในบ้าน
Hiroshi: เราต้องการคงความเป็นประตูสำหรับผู้ที่รักในดนตรีและต้องการลองเล่นด้วยตนเองเอาไว้ ไม่ว่าจะฝึกเล่นเพลงโปรดหรือบรรเลงสิ่งที่ใจปรารถนา ผมคิดว่าการเล่นดนตรีจะทำให้คุณได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ประสบการณ์นี้คือความสุขที่แท้จริง และผมคิดว่าเครื่องดนตรีชิ้นนี้สามารถเป็นประตูสู่ประสบการณ์นั้นได้ และจะนำคุณออกสู่เส้นทางแห่งดนตรีที่ไม่เหมือนใครอย่างรวดเร็ว แม้คุณจะเล่นสิ่งนี้เป็นครั้งคราวเมื่อมีเวลาว่าง สิ่งนี้ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินไปกับดนตรีได้ ผมคิดว่าเครื่องดนตรีนี้จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งคุณควรจะลองเล่นด้วยตัวคุณเอง!
Shunsuke: แม้ผมจะเล่นคีย์บอร์ดไม่เป็น แต่นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะมีไว้ในครอบครอง ผมหวังว่าผู้ที่ไม่เคยเล่นคีย์บอร์ดมาก่อนจะหยุดและลองเล่นเมื่อเห็นสิ่งนี้ในร้านค้า ผมอยากให้พวกเขาจินตนาการถึงเครื่องดนตรีชิ้นนี้ที่บ้าน หรือจินตนาการว่าตนเองกำลังเล่นอยู่ คีย์บอร์ดรุ่นนี้มีการออกแบบและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ผมขอให้ทุกคนลองเล่นและสัมผัสด้วยตนเอง
