Skip to content

เทคโนโลยีของ CASIO ที่ผสานความดั้งเดิมและนวัตกรรมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมโยงกับประสบการณ์ใหม่

CASIO ไม่หยุดยั้งในการแสวงหาเสียงและสัมผัสแบบดั้งเดิมของแกรนด์เปียโนรวมถึงความท้าทายในการเพิ่มคุณค่าเหล่านั้น และเชื่อมต่อกับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาซีรีส์ AP ของ CELVIANO ซึ่งเพรียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์และความทุ่มเทของ Casio เราจะมาดูคุณสมบัติต่างๆ กันอย่างละเอียด ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีแหล่งเสียงและเทคโนโลยีอะคูสติกที่สร้างเสียงชั้นยอด เทคโนโลยีคีย์บอร์ดที่สะท้อนความตั้งใจของผู้เล่นได้อย่างซื่อตรง และแนวคิดใหม่ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

เสียง

เทคโนโลยีแหล่งเสียง

แกรนด์เปียโนสร้างโทนเสียงที่สมบูรณ์และละเอียดอ่อนผ่านเสียงสะท้อนที่สร้างขึ้นโดยตัวหลังขนาดใหญ่และโครงสร้างที่ซับซ้อน เทคโนโลยีแหล่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ CASIO มุ่งมั่นที่จะสร้างเสียงสะท้อนที่โดดเด่นนี้อย่างครบถ้วน โดยให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและนุ่มลึก LSI แบบกำหนดเองสำหรับเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะประมวลผลข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ ซึ่งไม่เพียงแค่ปรับแต่งเอาต์พุตเสียงโดยละเอียด แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการแสดงในส่วนของโทนเสียงและการตอบสนองต่อการสัมผัสของแต่ละรุ่น โทนเสียง และแต่ละคีย์ ทำให้การแสดงและความสามารถในการเล่นเป็นไปอย่างอย่างเยี่ยม "Multi-Dimensional Morphing AiR Sound Source" ที่มาพร้อมกับ AP-550, AP-S450, AP-300 และ AP-S200 จะคำนวณการตอบสนองของเครื่องดนตรีต่อความเร็วในการกดคีย์และเวลาที่ผ่านไปนับตั้งแต่การกด เพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่การสัมผัสเบาๆ เพื่อถ่ายทอดการแสดงอย่างนุ่มนวลไปจนถึงการเล่นที่ทรงพลังและมีไดนามิก นอกจากนี้ AP-750 ยังใช้ "AiR Grand Sound Source" ที่ใช้ในซีรีส์ CELVIANO Grand Hybrid ซึ่งเป็นซีรีส์เรือธงของ Casio เทคโนโลยีแหล่งเสียงระดับชั้นนำนี้แสดงถึงลักษณะที่โดดเด่นและความสามารถในการแสดงของแกรนด์เปียโนที่นักดนตรีทั่วโลกต่างชื่นชอบ ซึ่งแสดงถึงจุดสูงสุดของความมุ่งมั่นของ Casio ในการมอบประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่มีใครเทียบได้

เทคโนโลยี Multi-Dimensional Morphing

โทนของแกรนด์เปียโนจะเปลี่ยนไปตามเทคนิคของผู้เล่นและเวลาที่ผ่านไป เทคโนโลยี 'Multi-Dimensional Morphing' อันเป็นเอกลักษณ์ของ CASIO บันทึกวิวัฒนาการอันลื่นไหลของโทนเสียงเหล่านี้อย่างพิถีพิถัน ด้วยการปรับโดยละเอียดสำหรับการตอบสนองของเครื่องดนตรีต่อการเปลี่ยนแปลงในความแรงและจังหวะในการกดคีย์ ทำให้ผู้เล่นสามารถแสดงผ่านการเล่นได้ตั้งแต่ระดับ pianississimo (ppp) ที่อ่อนโยนและละเอียดอ่อนไปจนถึง fortississimo (FFF) ที่ทรงพลัง

Acoustic Simulator

เสียงสะท้อนที่สมบูรณ์และสวยงามของแกรนด์เปียโนเป็นผลมาจากการผสมผสานที่ซับซ้อนระหว่างตัวหลังขนาดใหญ่ กลไกที่ซับซ้อน และสายประมาณ 230 สาย สายเหล่านี้สะท้อนตามเทคนิคการเล่น, Phrase และตำแหน่งคันเหยียบ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบฮาร์โมนิค “Resonance System” ของ CASIO ทำการวิเคราะห์และสร้างกลไกระบบเสียงสะท้อนที่ซับซ้อนนี้ขึ้นมาใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งประกอบด้วย “String Resonance” ที่สร้างการผสมผสานของเสียงที่สร้างจากสายเมื่อคีย์ถูกกด อีกทั้งยังจำลองเสียงสั่นสะท้อนของสายทั้ง 88 สายเมื่อมีการใช้คันเหยียบแดมเปอร์ร่วมด้วย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า “Damper Resonance” นอกจากนี้รุ่น AP-750 ยังมี "Aliquot Resonance" และ "Open String Resonance" ที่ให้เสียงสะท้อนคงที่โดยไม่ได้รับผลกระทบจากแดมเปอร์ ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเสียงที่โดดเด่น สวยงาม และกลมกลืนเป็นเอกลักษณ์ของแกรนด์เปียโน นอกจากนี้ระบบยังจำลองเสียงเชิงกลต่างๆ ที่มีอยู่ในแกรนด์เปียโน เช่น เสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเหยียบหรือปล่อยคันเหยียบแดมเปอร์ (“Damper Noise”) และเสียงของการทำงานเชิงกลอย่างตอนกดหรือปล่อยคีย์ (“Key Action Noise”) AP-750 ยังมาพร้อมกับการจำลองเสียงเชิงกลระหว่างการเหยียบคันเหยียบซึ่งเรียกว่า “Pedal Action Noise” การสร้างแม้แต่เสียงที่บางเบาที่เกิดจากแกรนด์เปียโนตามแบบต้นฉบับ ทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การเล่นที่สมจริงและดื่มด่ำยิ่งขึ้น

String Resonance

Open String Resonance

Damper Resonance

Aliquot Resonance

Lid Simulator

แกรนด์เปียโนมีฝาขนาดใหญ่ที่ด้านบนซึ่งสามารถเปิดและปิดได้ เนื่องจากฝาเปิดจากด้านความถี่สูง การยกขึ้นจะเปลี่ยนความสว่างและการกระจายเสียง ช่วยเน้นการเปลี่ยนแปลงโทนเสียงที่ได้รับอิทธิพลจากสัมผัสของผู้เล่น AP-750, AP-550 และ AP-300 มาพร้อมกับ “Lid Simulator” ที่สามารถจำลองโทนเสียงได้ตามระดับการเปิดฝาครอบแกรนด์เปียโนในสี่ระดับ คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณสามารถแสดงดนตรีด้วยเสียงที่เต็มอิ่มและกว้างขวางซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับแต่ละบทเพลง

*หมายเหตุ: การตั้งค่าของ Lid Simulator จะยังเหมือนเดิม แม้ว่าบอร์ดด้านบนของตัวเครื่องหลักซึ่งมีอยู่ใน AP-750, AP-550 และ AP-300 จะเปิดหรือปิดก็ตาม

การเปิดและปิดฝาแกรนด์เปียโน 4 ระดับนี้ได้รับการค้นคว้าและจำลองขึ้นมา

ถอดฝาออก

เปิดเต็มที่

กึ่งเปิด

ปิด

Lossless Audio Compression

ในเปียโนดิจิตอล ข้อมูลรูปคลื่นเสียงมักจะถูกบีบอัดและจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำภายใน เมื่อถูกเล่น จะมีการขยายเสียงเพื่อสร้างเสียงเปียโนขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการนี้ เสียงที่เล่นจึงเหมือนกับรูปแบบเสียงที่ถูกบีบอัด เช่น MP3 ทำให้คุณภาพลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเทียบกับเสียงต้นฉบับ "Multi-Dimensional Morphing AiR Sound Source" และ "AiR Grand Sound Source" ใช้เทคโนโลยีการบีบอัดที่รู้จักกันในชื่อ "Lossless Audio Compression" ซึ่งไม่เพียงช่วยป้องกันการเสื่อมคุณภาพของรูปคลื่น แต่ยังช่วยให้สามารถบันทึกและเล่นรูปคลื่นที่หลากหลายได้อีกด้วย ช่วยให้การแสดงมีความสนุกสนานด้วยโทนเสียงที่สวยงามและบรรเลงได้คล้ายกับแกรนด์เปียโน

โทนเสียง

เทคโนโลยี Sound Source ของ CASIO ได้นำเสนอโทนเสียงเปียโนที่หลากหลาย รวมถึงโทนเสียงที่สร้างขึ้นจากแกรนด์เปียโนที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทนเสียงแกรนด์เปียโนสามโทนที่รวมอยู่ใน AP-750 นั้นได้มาจากซีรีส์ CELVIANO Grand Hybrid โทนเสียงเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถัน โดยได้แรงบันดาลใจจากคุณสมบัติอันโดดเด่นของเปียโนสาม ได้แก่ Berlin, Hamburg และ Vienna ซึ่งทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเปียโนอย่างไม่อาจลบเลือน หนึ่งในโทนเสียงที่ชื่อว่า "Berlin Grand" เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับแบรนด์เปียโนชื่อดังของเยอรมัน C. Bechstein ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาลักษณะที่ชัดเจนและโปร่งใสพร้อมกับเสียงที่ไพเราะ Casio จึงได้ตรวจสอบ "D282" ที่เป็นรุ่นเรือธงของ C. Bechstein อย่างพิถีพิถัน คุณ Albrecht ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาจากแผนกเปียโนของบริษัท ได้รับเชิญให้มาที่ Casio และพวกเขาก็ร่วมกันสรุปการปรับเปลี่ยน ปรัชญาของการพัฒนานี้ได้ทำให้เสียงที่อ้างอิงในคำพูดอันโด่งดังของ Debussy มีชีวิตขึ้นมา: "เพลงเปียโนควรเขียนเพื่อ Bechstein เท่านั้น" เสียงที่มีความสวยงามและความโปร่งใสที่สดใหม่ สัมผัสคีย์บอร์ดดุจผ้าไหม พลังการบรรเลงที่ยอดเยี่ยมและมีชีวิตชีวา และความนุ่มนวลคล้ายกับเสียงของทูตสวรรค์ยังคงดึงดูดผู้ชมทั่วโลกตลอดหลายชั่วอายุคน

บทเพลงเปียโนคลาสสิก

ผลงานเปียโนคลาสสิกมีหลากหลายสไตล์และประเภท โดยแต่ละชิ้นต้องอาศัยช่วงการแสดงที่หลากหลายในการบรรเลง โดยการเจาะลึกเพื่อศึกษาคุณสมบัติที่โดดเด่นของบทเพลงประเภทต่างๆ เราได้วิเคราะห์ความแตกต่างและลักษณะเสียง เช่น การสะท้อนของสายและรูปแบบโทนเสียงที่ได้รับอิทธิพลจากทั้งการสัมผัสและเทคนิคการเล่น แล้วปรับให้เข้ากับบทเพลงประเภทต่างๆ  เพื่อสร้างสรรค์แนวทางใหม่ในการเพลิดเพลินกับเปียโนคลาสสิก เราได้พัฒนาโทนเสียง "บทเพลงเปียโนคลาสสิก" ที่แตกต่างกันถึง 10 โทน

ระบบอะคูสติก

ระบบเสียงที่เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแหล่งกำเนิดเสียง โทนเสียง และความสามารถในการเล่นผ่านการสัมผัสคีย์ให้เป็นเสียงที่ยอดเยี่ยม สิ่งนี้เป็นตัวกำหนดความสามารถในการแสดงโดยรวมของเครื่องดนตรีอย่างลึกซึ้ง ระบบอะคูสติกของ CELVIANO ซีรีส์ AP ได้รับการทุ่มเทเพื่อมอบเสียงธรรมชาติที่มีการสะท้อนของเสียงตามแบบฉบับของแกรนด์เปียโน สร้างประสบการณ์การบรรเลงที่โดดเด่นและน่าประทับใจ

ระบบเสียง Grandphonic

AP-750 มาพร้อมกับ "ระบบเสียง Grandphonic" สุดพิเศษ ซึ่งเป็นการติดตั้งอะคูสติกเสียงที่โดดเด่นที่นำประสบการณ์แกรนด์เปียโนมาอยู่ตรงหน้าด้วยความสมจริงที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมของ Casio มาพร้อมลำโพงหลักสี่ตัวและทวีตเตอร์สี่ตัว โดยที่ลำโพงแปดตัวนี้ขับเคลื่อนด้วยแอมพลิฟายเออร์สี่ตัว ซึ่งระบบนี้จะปรับแต่งแง่มุมต่างๆ ของแต่ละช่องสัญญาณ เช่น ความถี่ ระดับเสียง และการกระจายแยกกัน การเลือกใช้วัสดุกรวยทวีตเตอร์อย่างพิถีพิถัน การทำให้การตอบสนองความถี่นั้นเป็นแบบ Flat และการปรับมุมทวีตเตอร์ที่แม่นยำ ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ เพื่อสะท้อนเสียงภายใน ชิ้นส่วนพิเศษจึงได้รับการจัดวางอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์การได้ยินที่สมดุลในทุกช่วงเสียง อะคูสติกของแกรนด์เปียโนที่เครื่องดนตรีทั้งเครื่องสะท้อนและกระจายเสียงถูกสร้างขึ้นโดยการจำลองรูเสียงทั่วทั้งเครื่อง เพื่อให้เสียงจากลำโพงถูกปล่อยออกมาจากที่ต่างๆ ด้วยการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับคุณลักษณะเฉพาะของแกรนด์เปียโนในแต่ละช่วงความถี่ โครงสร้างยังช่วยให้เสียงลอดผ่านได้ง่าย เช่น กลไกบอร์ดด้านบนที่เปิดและปิดได้ทางกายภาพ ตลอดจนวิธีจัดเก็บฝาครอบคีย์ที่ไม่กีดขวางลำโพง วิธีการนี้ก้าวล้ำกว่าระบบสเตอริโอ 2 แชนเนลทั่วไป โดยให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและโอบล้อม ราวกับว่าแกรนด์เปียโนดังก้องไปทั่วเครื่องดนตรี AP-550 และ AP-S450 มีระบบลำโพง 4 ตัวแบบ 2 แชนเนล ขณะที่ AP-300 และ AP-S200 มีระบบลำโพง 2 ตัวแบบ 2 แชนเนล และปฏิบัติตามหลักการออกแบบเดียวกัน ซึ่งหมายความว่ารุ่นทั้งหมดนี้ได้สืบทอดหลักสำคัญของเสียงที่เป็นนวัตกรรมนี้

โหมดเสียง

ซีรีส์ AP ของ CELVIANO มาพร้อมกับฟังก์ชันโหมดเสียงที่ให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามที่คุณต้องการโดยการใช้เอฟเฟกต์ต่างๆ กับเอาต์พุตของระบบอะคูสติก ช่วยเพิ่มประสบการณ์เปียโนให้เหมาะกับความต้องการของคุณ การใช้เสียงก้องทำให้เกิดเอฟเฟกต์เสียงก้องที่ชวนให้นึกถึงการเล่นในห้องอื่นหรือพื้นที่คล้ายห้องโถง โหมดเสียงรอบทิศทางจะสร้างบรรยากาศที่กว้างขึ้นให้กับเอาต์พุตเสียงจากตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมี Hall Simulator เพื่อจำลองลักษณะเสียงของคอนเสิร์ตฮอลล์ที่มีชื่อเสียง มอบประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำ สำรวจการตั้งค่าอะคูสติกเสียงที่หลากหลายเพื่อค้นหาสไตล์ที่คุณต้องการ และยกระดับประสบการณ์การเล่นของคุณไปอีกระดับ

Volume Sync Equalizer

"Volume Sync Equalizer" มีประโยชน์เมื่อคุณต้องการเล่นเปียโนในระดับเสียงที่เบา เช่น ระหว่างอยู่ที่บ้านหรือการฝึกซ้อมช่วงดึก การได้ยินของมนุษย์มีแนวโน้มที่จะรับรู้ความถี่ต่ำและสูงในระดับเสียงที่เบาลงได้ลำบาก Volume Sync Equalizer จะปรับความถี่ต่ำและสูงโดยอัตโนมัติเมื่อเล่นในระดับเสียงเบา ช่วยให้มั่นใจได้ถึงเสียงที่สมดุลและได้ยินง่ายในทุกช่วงความถี่ โดยไม่คำนึงถึงการตั้งค่าความดังเสียง คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณรักษาเสียงที่สมดุล ทำให้เพลิดเพลินและฟังได้ง่ายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงระดับความดังเสียง

เสียงต่ำ

เสียงแหลม

ความสามารถในการเล่น

Smart Hybrid Hammer Action Keyboard CELVIANO Edition

"Smart Hybrid Hammer Action Keyboard CELVIANO Edition" ที่พบในรุ่น AP-750, AP-550 และ AP-S450 ใช้เทคโนโลยีการควบคุมดิจิตอลขั้นสูงเพื่อจัดการการตอบสนองของเสียงที่เกิดจากการกดคีย์โดยละเอียด มอบประสบการณ์การสัมผัสที่ชวนให้นึกถึงแกรนด์เปียโน ด้วยกลไกการทำงานของค้อนเคาะสายที่ใช้น้ำหนักของค้อน ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของแกรนด์เปียโน ทำให้มีความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อเล่นเบาๆ และมีความรู้สึกต้านทานเพิ่มขึ้นเมื่อเล่นแรงๆ  แต่ละคีย์ยังมีน้ำหนักถ่วงเพื่อรักษาสมดุลกับค้อน ทำให้การเคลื่อนไหวมีความราบรื่นและมั่นคงแม้ในขณะที่เล่นคีย์ด้วยการสัมผัสแบบเบาๆ

88-Key Digital Scaling/Hammer Response

แม้ว่าแกรนด์เปียโนจะมี 88 คีย์ แต่แต่ละคีย์ก็ให้สัมผัสที่ต่างกันเนื่องจากความแตกต่างของขนาดค้อน น้ำหนัก ความหนาของสาย และปัจจัยอื่นๆ "Smart Hybrid Hammer Action Keyboard CELVIANO Edition" ใช้ "เทคโนโลยี 88-Key Digital Scaling" ที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างสัมผัสที่แตกต่างกันของคีย์แกรนด์เปียโนแต่ละคีย์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ "Hammer Response" ยังช่วยปรับจังหวะเวลาของเสียงที่สร้างโดยแต่ละคีย์แบบดิจิตอล ซึ่งจะแสดงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในความรู้สึกของสัมผัสที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วง ทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นแกรนด์เปียโนที่สมจริง

Key Off Response

"Key Off Response" จะจัดการจังหวะหน่วงเวลาโดยติดตามการเคลื่อนไหวของปุ่มเมื่อปล่อย สำหรับแกรนด์เปียโน เสียงจะหยุดเมื่อแดมเปอร์สัมผัสกับสาย ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ควบคุมจังหวะหน่วงเวลาได้อย่างแม่นยำ โดยตอบสนองต่อความเร็วในการปล่อยปุ่ม ซึ่งช่วยให้สามารถแสดงถึงความแตกต่างในการสัมผัสได้ละเอียดยิ่งขึ้น เช่น การส่งเสียงโน้ตถัดไปโดยไม่ตัดโน้ตก่อนหน้าออกในระหว่างการเล่นโน้ตซ้ำ คุณสามารถปรับฟังก์ชัน Key Off Response ได้สามขั้น ซึ่งจะปรับแต่งคุณลักษณะของคีย์บอร์ดให้เข้ากับสไตล์ดนตรี ไม่ว่าจะโน้มไปทาง legato หรือ staccato ก็ตาม

Key Off Simulator

“ฟังก์ชัน Key Off Simulator” จะปรับเวลาในการปล่อยและการแสดงตามความเร็วของการปล่อยคีย์ โดยจำลองการเปลี่ยนแปลงของเสียงในแกรนด์เปียโน โดยจะบันทึกความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในความยาวและการแสดงในขณะที่ผู้เล่นปล่อยคีย์ ทำให้สามารถถ่ายทอดความแตกต่างอันละเอียดอ่อนที่ถ่ายทอดผ่านนิ้วของผู้เล่นได้อย่างเที่ยงตรง

ปล่อยคีย์ช้า

เสียงค้างอยู่นาน

ปล่อยคีย์เร็ว

เสียงค้างอยู่สั้น

วัสดุคีย์บอร์ด

คีย์สีขาวมีโครงสร้างไฮบริดที่ประกอบด้วยเรซินและไม้สน ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่พบในแกรนด์เปียโน พื้นผิวที่คล้ายงาช้างธรรมชาติสำหรับคีย์สีขาวและพื้นผิวที่ชวนให้นึกถึงไม้มะเกลือสำหรับคีย์สีดำจำลองประสบการณ์ในการสัมผัสแกรนด์เปียโนได้อย่างสมจริง ซึ่งไม่เพียงช่วยให้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่พื้นผิวที่หรูหรายังให้รูปลักษณ์ที่มีสไตล์ของแกรนด์เปียโน

คีย์บอร์ด Smart Scaled Hammer Action

ทั้ง AP-300 และ AP-S200 มาพร้อมกับคุณสมบัติ “Smart Scaled Hammer Action Keyboard” ซึ่งรวมกลไกทางกายภาพของน้ำหนักค้อนเข้ากับเทคโนโลยีการควบคุมแบบดิจิตอล เช่น “88-Key Digital Scaling”, “Hammer Response”, และ “Key-Off Response” เพื่อสร้างสัมผัสที่แท้จริงของแกรนด์เปียโน นอกจากนี้ คีย์สีขาวยังมีพื้นผิวแบบงาช้าง ขณะที่คีย์สีดำมีพื้นผิวแบบไม้มะเกลือ ให้สัมผัสที่หรูหราคล้ายแกรนด์เปียโน พร้อมกับความสะดวกสบายและการป้องกันลื่นไหลของนิ้วเมื่อมีเหงื่อ แม้จะเล่นเป็นเวลานาน

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัมผัส

“สัมผัส" มีบทบาทสำคัญในการเลือกเปียโนดิจิตอล โดยเป็นตัวกำหนดความรู้สึกในการเล่นซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของคีย์บอร์ดที่จำเป็นเพื่อให้ได้เสียงที่ต้องการ ในขณะที่กลไก "Hammer Action" ที่ใช้กันทั่วไปในเปียโนดิจิตอลใช้น้ำหนักของค้อนเพื่อสร้างความรู้สึกในการเล่นที่คล้ายกับแกรนด์เปียโน กลไกหลักในการสร้างเสียงจะแตกต่างกันระหว่างเปียโนดิจิตอลและแกรนด์เปียโนอะคูสติก ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสัมผัสและเสียงจึงแตกต่างกันเช่นกัน หรือพูดได้ว่า สัมผัสของเปียโนอะคูสติกสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างแม่นยำโดยการปรับใช้ทั้งเทคโนโลยีการควบคุมดิจิตอลและกลไกทางกายภาพ สัมผัสของคีย์ประกอบไปด้วยปัจจัยทางกายภาพที่ซับซ้อน เช่น น้ำหนักในการกด น้ำหนักในการยก ความรู้สึกในการสัมผัส และอื่นๆ น้ำหนักในการกดหมายถึงน้ำหนักคงที่ที่จำเป็นในการกดคีย์ และน้ำหนักในการยกคือน้ำหนักที่ทำให้คีย์ที่ถูกกดกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม ซึ่งองค์ประกอบสำคัญทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกในการสัมผัส การทำงานของค้อนของเปียโนทำงานด้วยหลักคันโยก โดยน้ำหนักที่นิ้วรับรู้จะเพิ่มขึ้นตามแรงที่มากขึ้น การตอบสนองของเปียโนต่อการเล่นคีย์และความง่ายในการสร้างเสียงดังจะส่งผลต่อความหนักเบาของความรู้สึกที่สัมผัส เปียโนดิจิตอลไม่สามารถปรับเปลี่ยนกลไกทางกายภาพได้ ดังนั้นจะต้องใช้หลักทางกายภาพของฟิสิกส์เพื่อเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของการสัมผัสที่สัมพันธ์กับเสียงที่ต้องการ เมื่อเล่นเปียโนอะคูสติก สัมผัสอาจรู้สึกหนักมากกว่าในช่วงเสียงต่ำ เนื่องจากขนาดค้อน ความหนาของสาย และความยาวที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ความไวต่อการสัมผัสยังแตกต่างกันไประหว่างการเล่นใกล้กับด้านหน้าหรือด้านหลังของคีย์ “Smart Scaled Hammer Action Keyboard” ที่มีภายใน AP-300 และ AP-S200 รวมถึงการผสมผสานของกลไกทางกายภาพของน้ำหนักค้อนและการควบคุมดิจิตอลช่วยจำลองความรู้สึกของการเล่นแกรนด์เปียโน "Smart Hybrid Hammer Action Keyboard CELVIANO Edition" ที่มีใน AP-750, AP-550 และ AP-S450 มีคุณสมบัติน้ำหนักที่ออกแบบมาอย่างครอบคลุม ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งกลไกทางกายภาพและการควบคุมแบบดิจิตอลเพื่อให้เหมาะกับตู้ เสียง และการแสดงทางดนตรีที่ผู้ใช้ต้องการได้อย่างเหมาะสม พบกับสัมผัสที่ยอดเยี่ยมและเสียงที่ตอบสนองอย่างเหมาะสม ซึ่งสะท้อนสไตล์การเล่นของแกรนด์เปียโนอะคูสติก

คันเหยียบ

AP-750, AP-550 และ AP-S450 มีรูปแบบคันเหยียบที่เหมือนกัน และคันเหยียบแดมเปอร์ยังสามารถแปรผันได้แบบต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้สร้างการเปลี่ยนแปลงของเสียงสะท้อนได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งรักษาเสียงไว้ในขณะที่แดมเปอร์เปิด ความลึกของการเหยียบคันเหยียบให้การควบคุมโดยละเอียด ซึ่งไม่ได้ควบคุมแค่จังหวะและการประสานเสียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโทนเสียงด้วย AP-300 และ AP-S200 รองรับการทำงานแบบครึ่งคันเหยียบสำหรับคันเหยียบแดมเปอร์ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการแสดงดนตรีผ่านการใช้คันเหยียบ คันเหยียบซอฟต์ช่วยให้คุณสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของโทนเสียงที่เกิดจากการเคลื่อนที่แนวนอนของชุดค้อนเคาะสายเมื่อเล่นแกรนด์เปียโนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในรุ่น AP-750 คันเหยียบซอฟต์จะเป็นแบบแปรผันต่อเนื่อง ส่วน AP-550 และ AP-300 จะรองรับการทำงานแบบครึ่งคันเหยียบ ช่วยให้สามารถควบคุมได้ละเอียดมากขึ้นระหว่างการเล่นแบบนุ่มนวล ชุดคันเหยียบของ AP-750, AP-550 และ AP-300 ได้รับการเสริมความแข็งแรงในด้านฮาร์ดแวร์ โดยใช้รูปทรงและระยะห่างที่อิงตามคันเหยียบที่ใช้ในแกรนด์เปียโน และการปรับแต่งนี้ทำให้สามารถเหยียบได้ลึกมากขึ้น นอกจากนี้ รุ่นที่มีคันเหยียบแบบแปรผันต่อเนื่องยังช่วยให้การดำเนินการที่ละเอียดและมีความแม่นยำสูงสามารถทำได้ง่าย AP-S450 และ AP-S200 โดดเด่นด้วยชุดคันเหยียบสามคันที่เพรียวบาง ซึ่งรักษาสมดุลระหว่างการออกแบบที่กะทัดรัดและความสามารถในการใช้งาน AP-S450 มีคันเหยียบแดมเปอร์แบบแปรผันต่อเนื่อง ในขณะที่ AP-S200 มีคันเหยียบแดมเปอร์ที่ทำงานได้แบบครึ่งคันเหยียบ ทั้งสองแบบนี้ช่วยให้สามารถถ่ายทอดการแปลงเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ในการแสดงผ่านการใช้คันเหยียบที่ละเอียดอ่อน

ประสบการณ์

แถบแสดงข้อมูล

*มีในรุ่น AP-750, AP-550 และ AP-S450

การแสดงความเร็วการกดคีย์

แถบแสดงข้อมูลจะแนะนำคุณสมบัติเฉพาะที่ใช้ความยาวของแสงเพื่อแสดงถึงความแรงและความเบาของการกดคีย์ แม้ว่าการแยกแยะความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในความเร็วของการกดคีย์ผ่านการฟังเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้ความเข้าใจที่ชัดเจนผ่านการดู ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการรวมการแสดงออกที่หลากหลายภายใน Phrase เดียวกัน แถบแสดงจะทำหน้าที่เป็นตัวยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแรงที่ใช้กดคีย์ สำหรับการแสดงคู่โดยใช้ฟังก์ชันดูเอ็ท แถบแสดงจะแบ่งตรงกลางเพื่อแสดงความเร็วในการกดคีย์ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา นอกจากนี้ เมื่อเล่นเพลงที่บันทึกด้วยเครื่องบันทึก MIDI ภายในตัว จะสามารถสังเกตความเร็วการกดคีย์ได้บนแถบแสดงข้อมูล ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูสิ่งที่ยากต่อการตรวจสอบขณะเล่นได้ เช่น การดูว่าการเปลี่ยนแปลงไดนามิกของเสียงถูกรวมเข้ากับโฟลว์โดยรวมของเพลงอย่างไร

การแสดงความลึกของคันเหยียบแดมเปอร์

แม้ว่าคันเหยียบซึ่งมีความสำคัญต่อการแสดงเปียโน มักจะไม่ปรากฏให้เห็นบริเวณเท้า แต่แถบแสดงข้อมูลจะแสดงรายละเอียดให้เห็นได้อย่างชัดเจน คุณสมบัตินี้จะแสดงความลึกของการเหยียบคันเหยียบแดมเปอร์ให้เห็น ทำให้การแยกแยะความตื้นลึกของคันเหยียบที่เดิมทีแล้วทำได้ยากมีความชัดเจนขึ้นในทันที ความยาวของแถบไฟทำหน้าที่เป็นตัวระบุ ซึ่งทั้งผู้เล่นและผู้สอนมองเห็นได้ ช่วยให้สื่อสารเทคนิคการใช้คันเหยียบได้อย่างแม่นยำ ในระหว่างการดูเอ็ท แถบแสดงข้อมูลที่ถูกแบ่งครึ่งจะตอบสนองต่อความลึกของการเหยียบคันเหยียบในแต่ละด้าน นอกจากนี้ ในระหว่างการเล่นเพลงที่บันทึกด้วยเครื่องบันทึก MIDI ในตัว ความลึกของคันเหยียบแดมเปอร์จะถูกแสดงให้เห็นทางสายตา ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตรวจสอบสิ่งที่เข้าใจได้ยากหากต้องฟังอย่างเดียว เช่น การสะท้อนของคอร์ดที่ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาของคันเหยียบที่ใช้

เครื่องจับจังหวะ

ใช้ประโยชน์จากแถบแสดงข้อมูลเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์การเล่นเปียโนของคุณ คุณสมบัตินี้แสดงจังหวะเวลาอย่างชาญฉลาดผ่านการเคลื่อนไหวของแสงที่น่าดึงดูดบนแผงด้านหน้า ซึ่งใช้ควบคู่เป็นเครื่องจับจังหวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบไฟที่โดดเด่นห้าแบบที่มีให้คุณเลือกใช้ทำให้คุณมีอิสระในการปรับแต่งการแสดงผลได้ตามความต้องการและเป้าหมายทางดนตรีที่คุณตั้งไว้

การแสดงสถานะเครื่องดนตรี

แถบแสดงข้อมูลยังสามารถแสดงสถานะปัจจุบันของเปียโนดิจิตอลในรูปแบบที่เรียบง่าย นอกจากจะแสดงตำแหน่งการเล่นโดยประมาณเมื่อเล่นด้วย Instant RePlayer แล้ว ยังแสดงข้อผิดพลาดในการจับคู่ Bluetooth, สถานะการเขียนปัจจุบัน รวมถึงรายการที่เลือกจากการตั้งค่าหลายรายการได้ ทำให้ผู้เล่นเข้าใจการตั้งค่าของเครื่องดนตรีได้ง่ายแม้ไม่มีหน้าจอ LCD

ฟังก์ชันไฟส่องสว่างตามเสียง

ตัวอุปกรณ์นั้นมาพร้อมกับฟังก์ชันไฟส่องสว่างบนแถบแสดงข้อมูลที่จะสว่างขึ้นตามเพลงเมื่อคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Bluetooth และเล่นเพลง มีแสงไฟสี่รูปแบบให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงด้วยเอฟเฟกต์ที่เพิ่มเข้ามา

*สามารถปิดแถบแสดงข้อมูลได้

Instant RePlayer

*มีในรุ่น AP-750, AP-550 และ AP-S450

การเปิดใช้งานฟังก์ชัน "Instant RePlayer" จะเริ่มการบันทึกการกดคีย์หรือการเหยียบคันเหยียบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลการเล่นไว้นานถึง 270 วินาที เมื่อเกิน 270 วินาที บันทึกที่เก่ากว่าจะถูกเขียนทับจึงไม่จำเป็นต้องแบ่งความสนใจให้กับการบันทึก ในขณะที่เล่นหรือฝึกซ้อมอย่างอิสระ หากมีจุดที่น่าสนใจเกิดขึ้น คุณสามารถระบุจุดเล่นได้อย่างง่ายดายและฟังได้ทันที ตรงกันข้ามกับฟังก์ชันการบันทึกทั่วไปที่เริ่มเล่นตั้งแต่ต้นเพลง Instant RePlayer ช่วยให้คุณสามารถเลื่อนตำแหน่งที่จะเริ่มเล่นได้ทีละ 5 วินาที ทำให้สามารถเล่นได้ทันทีเมื่อคุณต้องการตรวจสอบเฉพาะ Phrase ที่เล่นได้ไม่ราบรื่น นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำเครื่องหมายตำแหน่งระหว่างการบรรเลงที่คุณต้องการกลับมาดูในภายหลังเพื่อระบุตำแหน่งการเล่นได้ ทำให้สะดวกอย่างยิ่งต่อการระบุตำแหน่งการฟังส่วนที่ท้าทายหรือเปรียบเทียบส่วนที่ยากหลายส่วน สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองบนเปียโนหรือทำได้ง่ายผ่านแอป “CASIO MUSIC SPACE” ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ

คุณสมบัติ

ฟังก์ชันการบันทึก

การกดปุ่มบันทึกจะเริ่มการบันทึก MIDI ไปยังหน่วยความจำภายใน สามารถบันทึกได้สูงสุด 2 แทร็ก ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลการเล่นด้วยมือขวาและการเล่นด้วยมือซ้ายแยกกันได้ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกแต่ละมือแยกกัน ซ้อนเสียงสำหรับการฝึกซ้อม และเพลิดเพลินกับการแสดงเดี่ยวด้วยการเล่นเสียงที่บันทึกไว้ซ้อนทับกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวบันทึกเสียงที่ให้คุณบันทึกการแสดงเป็นข้อมูลเสียงในแฟลชไดรฟ์ USB ได้ (AP-750 ยังรองรับการบันทึกในหน่วยความจำภายในด้วย) ข้อมูลที่บันทึกด้วย MIDI หรือตัวบันทึกเสียงสามารถถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เพื่อการสตรีมหรือตัดต่อได้

Scenes

AP-750 มาพร้อมกับ "Scenes" ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กำหนดค่าโทนเสียง เสียงสะท้อน เสียงก้อง และค่าอื่นๆ แบบผสมผสานเอาไว้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการย้อนกลับไปพบกับช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ต่างๆ สไตล์ของนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียง หรือการตั้งค่าการแสดงที่หลากหลาย รับประสบการณ์การเล่นที่หลากหลายและปรับได้ตามที่ต้องการด้วย Scene ที่กำหนดค่าเอาไว้ล่วงหน้า 10 รายการ ซึ่งครอบคลุมถึงผู้แต่ง ยุคสมัย และฉากในการเล่น รวมถึงตัวเลือกในการบันทึก Scene แบบกำหนดเองอีก 10 รายการ

แอป "CASIO MUSIC SPACE"

แอปเฉพาะที่มีชื่อว่า "CASIO MUSIC SPACE" จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมเปียโนดิจิตอลได้โดยสะดวกด้วยคุณสมบัติรีโมตเปียโนที่ใช้งานง่ายและ UI แบบกราฟิก เมื่อเชื่อมต่อผ่าน MIDI ไร้สายและอะแดปเตอร์ออดิโอที่ให้มาด้วยหรือสาย USB คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเปียโนและควบคุมจากระยะไกลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีประโยชน์ในการปรับแต่งเอฟเฟกต์โดยละเอียดหรือปรับพารามิเตอร์หลายตัวพร้อมกัน นอกจากนี้ แอปยังมีโน้ตเพลงสำหรับผลงานคลาสสิกชิ้นเอกและเพลงสำหรับฝึกซ้อมอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถใส่คำอธิบายประกอบลงบนแผ่นโน้ตได้โดยตรง ดื่มด่ำกับคุณสมบัติ "Concert Play" เพื่อเล่นควบคู่ไปกับการบันทึกออร์เคสตราที่สมจริง สร้างบรรยากาศของการแสดงร่วมกัน คุณยังสามารถควบคุมฟังก์ชันการเล่น เช่น เล่น หยุดชั่วคราว เลื่อนไปข้างหน้า ย้อนกลับ และเล่นซ้ำส่วน A-B สำหรับเพลงของ Concert Play ได้ด้วย และอย่าลืมว่า คุณยังสามารถปรับแต่งจังหวะเพื่อฝึกเล่นบทเพลงที่ท้าทายเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

Select a location