
เครื่องคิดเลขกราฟสามารถนำสูตรคำนวณที่เป็นตัวเลขมาแสดงผลในรูปแบบกราฟ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นเครื่องมือสนับสนุนการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และได้รับความนิยมไปทั่วโลก
แม้ในปัจจุบัน ความสามารถในการแสดงกราฟเช่นนี้จะดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในอดีตที่เครื่องคิดเลขประเภทนี้ยังไม่แพร่หลายทั่วโลก การพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวางถือเป็นความท้าทายอย่างมาก
Casio เป็นผู้ผลิตและวางจำหน่ายเครื่องคิดเลขกราฟเครื่องแรกของโลกที่มีชื่อว่า fx-7000G เราจะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมนี้ และสิ่งที่ได้ทุ่มเทไปเพื่อให้เครื่องคิดเลขรุ่นนี้เกิดขึ้นจริง

Hiroyuki Yoshino ผู้พัฒนา fx-7000G
Yoshino เริ่มทำงานกับ Casio ในปี 1979 ตลอดระยะเวลา 41 ปี เขาทำงานด้านการพัฒนาเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์และกิจกรรมสนับสนุนด้านการศึกษา
จุดเริ่มต้นของเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์: การถือกำเนิดของ fx-1
เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ถือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร เครื่องคิดเลขเกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความหลงใหล โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องคำนวณเอง หากผู้คนไม่ต้องเสียเวลาอย่างมากไปกับการคำนวณ ก็จะสามารถมุ่งเน้นไปที่การคิดในระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ การดำเนินการตามเป้าหมายนี้ที่ Casio เริ่มต้นในปี 1972 เมื่อบริษัทเปิดตัวเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์เครื่องแรกจากญี่ปุ่นในชื่อ fx-1 สู่ตลาดโลก ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากบุคลากรสายเทคนิคและนักเรียน กลุ่มผู้ใช้งานเหล่านี้สามารถใช้เครื่องคิดเลขเพื่อจัดการกับสูตรที่ซับซ้อนได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องคำนวณด้วยตนเอง fx-1 เป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการต่อเนื่องของเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงการพัฒนา fx-7000G ด้วย

การแสดงข้อมูลสูตรและตาราง: นวัตกรรมในการเรียนรู้จาก fx-7000G

ในปี 1985 บริษัท Casio ได้เปิดตัว fx-7000G ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ที่มีฟังก์ชันกราฟเครื่องแรกของโลก เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ในอดีตให้คำตอบเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น แต่ fx-7000G สามารถแสดงข้อมูลเป็นกราฟเส้น แสดงข้อมูลในตารางเป็นกราฟแท่ง และอื่นๆ อีกมาก เครื่องคิดเลขรุ่นนี้ใช้การแสดงผลแบบภาพเพื่ออธิบายแนวคิดที่เข้าใจได้ยากจากการดูตัวเลขเพียงอย่างเดียว fx-7000G ได้รับคำชมว่าเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ และถือเป็นวิวัฒนาการที่แท้จริงของเครื่องคิดเลข
ทุกอย่างเริ่มต้นจากข้อเสนอเพียงหน้าเดียว
เครื่องคิดเลขกราฟ fx-7000G เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร Hiroyuki Yoshino หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการนี้ ได้ย้อนนึกกลับไปถึงช่วงเวลานั้นและบอกว่า “โครงการนี้เริ่มต้นจากหน้าหนังสือเรียนคณิตศาสตร์”
“ตั้งแต่ราวปี 1980 เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ไม่ได้ถูกใช้งานโดยวิศวกรเท่านั้น นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ได้เริ่มใช้งานด้วย พวกเราเลยตั้งคำถามว่า เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์แบบไหนที่เหมาะสำหรับการเรียนคณิตศาสตร์ หลังจากนั้น ทีมงานได้รวบรวมและศึกษาหนังสือเรียนคณิตศาสตร์จากทั่วโลก เราพบว่ากราฟ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคณิตศาสตร์ ไม่สามารถแสดงบนเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ในยุคนั้นได้ เราเลยคิดว่าหากสามารถทำให้เครื่องคิดเลขแสดงกราฟได้ ก็จะช่วยพัฒนาการเรียนคณิตศาสตร์ได้อย่างมาก”


Yoshino ตั้งใจแน่วแน่ที่จะหาวิธีสร้างเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ที่สามารถแสดงกราฟได้ และเขาก็เขียนแนวคิดทั้งหมดลงในข้อเสนอหนึ่งหน้าในปี 1983 ข้อเสนอนี้อธิบายถึงภาพกราฟ y=x2 บนหน้าจอของเครื่องคิดเลข เมื่อเขานำเสนอข้อเสนอนี้ โครงการก็ได้รับการอนุมัติทันที และทีมพัฒนาก็เริ่มลงมือทำงานอย่างไม่รอช้า
“ยังไม่มีใครเคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำให้มันใช้งานได้อย่างไร แต่เราตื่นเต้นมาก เพราะเรากำลังจะสร้างสิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยมือของเราเอง”
กระบวนการพัฒนาที่เต็มไปด้วยการลองผิดลองถูกอย่างต่อเนื่อง
ความพยายามในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนจากศูนย์ เริ่มต้นขึ้นเช่นนี้
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่ผู้คนจะตื่นเต้นเมื่อเราเปิดเผยสิ่งนั้นต่อโลก เรารู้ว่าเราต้องนำเสนอสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ประหลาดใจ นั่นคือความภาคภูมิใจของเราในฐานะนักพัฒนา”
ทีมพัฒนาต้องเจอปัญหาใหญ่ในการแสดงกราฟ วิธีการทั่วไปไม่สามารถวาดกราฟที่มีเส้นโค้งได้
“เรารู้ว่าเราจำเป็นต้องใช้หน้าจอแบบ Full dot เพื่อวาดกราฟให้เหมาะสม แต่นั่นจะทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็ต้องการให้เครื่องคิดเลขสามารถใช้แบตเตอรี่ได้ เพื่อให้ผู้ใช้พกพาไปได้ทุกที่” เพื่อให้เครื่องคิดเลขสามารถพกพาได้ ทีมจึงเลือกใช้ จอ LCD แบบ Dot Matrix และออกแบบให้เครื่องใช้พลังงานต่ำ พวกเรายังพิจารณาเรื่องความสะดวก ขนาดที่เหมาะมือ และหน้าจอที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วย”
นักพัฒนาสามารถทำให้เครื่องคิดเลขสามารถวาดกราฟได้สำเร็จ แม้จะต้องเผชิญข้อจำกัดมากมาย ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ของพวกเขา



ในส่วนของซอฟต์แวร์ วิธีที่เครื่องคิดเลขจะใช้ในการวาดกราฟก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ
“เมื่อเราดูหนังสือเรียนคณิตศาสตร์และพิจารณาฟังก์ชันที่จำเป็น เราก็เริ่มคิดว่าจะวาดกราฟอย่างไร แสดงพิกัดบนกราฟอย่างไร รวมถึงใส่ฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการซูมเข้า-ออก ผมคิดว่านี่เป็นช่วงที่เราเริ่มนึกถึงสิ่งต่างๆ อย่างเมนูที่มีไอคอน และการใช้งานเชิงโต้ตอบที่เข้าใจง่าย ผมจะพกสมุดโน้ตติดตัวไว้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพื่อจดบันทึกไอเดียที่ผุดขึ้นมาในหัว นี่แหละคือวิธีที่คุณสมบัติใหม่ ๆ เริ่มต้นขึ้น”
Yoshino เล่าว่าทีมงานทำงานแบบลองผิดลองถูกอย่างไม่หยุดหย่อน มีหลายครั้งที่กราฟไม่แสดงผล หรือแสดงผลผิดเพี้ยน และแม้แต่ในตอนนี้ เขายังคงจำได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกตอนที่กราฟของสมการ y=x2 ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของเครื่องคิดเลขต้นแบบเป็นครั้งแรก ในที่สุด ไอเดียที่เขาเสนอไว้ในข้อเสนอก็กลายเป็นความจริง

ในที่สุด: เครื่องคิดเลขกราฟเครื่องแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้น
กระบวนการนี้นำไปสู่การสร้างเครื่อง fx-7000G จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1985
“ท้ายที่สุด พวกเราก็ประสบความสำเร็จในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานทั้งฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่เราต้องการ พร้อมกับควบคุมต้นทุนและส่งมอบได้ตามกำหนด”
แนวคิดของ Yoshino ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตั้งชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์ด้วย
“ผมเริ่มจาก ‘fx’ ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ของ Casio แล้วก็นึกถึงเลข 7 ซึ่งเป็นเลขนำโชค เราก็เลยตั้งชื่อรุ่นว่า ‘fx-7000G’”


ในช่วงฤดูร้อนของปีนั้น fx-7000G ได้รับความสนใจอย่างมาก ที่งาน Consumer Electronics Show (CES) ในสหรัฐอเมริกา
“บรรดาครูที่มาเยี่ยมบูธและทดลองใช้เครื่องต่างก็พูดประมาณว่า ‘ยอดเยี่ยมมาก!’ ผมดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น”
หลังจากนั้น ข่าวของ fx-7000G ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการ ก็แพร่กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม โดย Yoshino ได้รับการแนะนำตัวในงานประชุมวิชาการโดยบุคคลสำคัญในแวดวงการศึกษาในฐานะ “วิศวกรผู้พัฒนาเครื่องคิดเลขกราฟเครื่องแรกของโลก”
ฟังก์ชันหลักของเครื่องคิดเลขในห้องเรียน
Yoshino ชี้ให้เห็นว่า fx-7000G ไม่ได้มีดีแค่การวาดกราฟเท่านั้น
“ผมเชื่อว่า การที่เครื่องคิดเลขสามารถแสดงกราฟควบคู่ไปกับการคำนวณทำให้เกิดรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ที่กระตุ้นให้เกิดการสำรวจและพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีตรรกะ”
การเปิดตัวของ fx-7000G ทำให้เครื่องคิดเลขสามารถถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือการศึกษาในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี และออสเตรเลีย การใช้เครื่องคิดเลขและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว
เพื่อเป็นการยกย่องสิ่งที่ fx-7000G มอบให้ต่อการศึกษาคณิตศาสตร์ เครื่องรุ่นนี้ได้ถูกรวมอยู่ในคอลเลกชันของ Smithsonian Institution ในสหรัฐอเมริกา กล่าวได้ว่า fx-7000G เป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์
หลังจากนั้น Casio ก็ยังคงทำงานร่วมกับครูและผู้สอนอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ใช้งานได้ง่ายในห้องเรียน กระบวนการพัฒนานี้ได้นำไปสู่ผลลัพธ์อย่างเช่น เครื่องคิดเลขซีรีส์ MS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลในรูปแบบที่คล้ายกับหนังสือเรียน และเครื่องคิดเลขซีรีส์ ES ซึ่งสามารถแสดงสูตรตัวเลขแบบเดียวกับที่นำเสนอในหนังสือเรียน ด้วยวิธีเหล่านี้และวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ของ Casio ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


fx-82MS
fx-991ES
เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ในฐานะเครื่องมือการศึกษาเพื่อสนับสนุนการสำรวจและเรียนรู้
แนวคิดที่ว่าเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ควรเป็นอย่างไรนั้นมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับประสบการณ์ส่วนตัวของ Yoshino ในช่วงที่เขาเป็นนักศึกษา
“ตอนที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมต้องคำนวณจำนวนเชิงซ้อนและอินทิกรัลมากมายด้วยตัวเองเพื่อวิเคราะห์วงจร และผมก็มักจะคิดว่า ถ้ามีเครื่องคิดเลขสักเครื่องที่ช่วยลดเวลาในการคำนวณเหล่านั้นได้ก็คงจะดีมาก ผมยังเคยได้ยินจากครูหลายคนว่า คณิตศาสตร์มีสาม ‘กำแพง’ ที่ทำให้นักเรียนไม่ชอบวิชานี้ นั่นคือเศษส่วน สมการ และแคลคูลัส ผมจึงคิดอยู่เสมอว่าจะสามารถสร้างเครื่องมืออะไรสักอย่างที่ช่วยทลายกำแพงเหล่านี้ และช่วยให้นักเรียนเรียนคณิตศาสตร์ได้ง่ายขึ้นหรือไม่”
เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ไม่ควรเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ให้คำตอบ แต่ควรเป็นเครื่องมือเพื่อการศึกษาที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้เชิงสำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ การคิด และการค้นพบด้วยตนเอง
นี่คือความคิดเบื้องหลังการพัฒนา fx-7000G และแน่นอนว่าเป็นความคิดพื้นฐานของเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์โดยรวม

มองสู่อนาคต: แนวคิดของ Casio สำหรับธุรกิจด้านการศึกษา

ที่ Casio เรายึดมั่นในปรัชญาองค์กร “ความคิดสร้างสรรค์และการสนับสนุน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจในการสร้างสรรค์แนวคิดและคุณค่าใหม่ๆ เพื่อนำไปสู่การสนับสนุนสังคม
สำหรับธุรกิจด้านการศึกษา Casio ได้กำหนดข้อความที่ว่า “กระตุ้นความอยากรู้ของคุณ” เพื่อสะท้อนถึงเป้าหมายของเราในการสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาของ “วงจรแห่งความอยากรู้” ในตัวผู้เรียนแต่ละคน โดยที่การได้รับความรู้ใหม่จะนำไปสู่ความอยากรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เราได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้
แนวคิดและแนวทางเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ในทางกลับกัน สิ่งเหล่านี้คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามธรรมชาติที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจของ Yoshino ในการสร้างเครื่องคิดเลขที่สามารถวาดกราฟได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงความพยายามของทีมพัฒนาในยุคนั้นด้วย
