มรดกของเรา
SINCE 1974
ให้นิยามใหม่กับนาฬิกาในทุกยุคเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
ประวัติศาสตร์ของนาฬิกา Casio ล้วนแต่เป็นเรื่องของการเผชิญหน้ากับความท้าทาย ทั้งหมดนี้เริ่มต้นในปี 1974 กับ Casiotron ซึ่งเป็นนาฬิกาดิจิตอลเรือนแรกของโลกที่มีฟังก์ชันปฏิทินอัตโนมัติ นับแต่นั้น Casio ก็สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เรื่อยมา โดยนำเสนอนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เพียงแต่จะมีความเที่ยงตรง แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่หลากหลาย
ทุกวันนี้ Casio ยังคงเปิดรับความท้าทาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสนับสนุนชุมชนทั่วโลก คุณสามารถวางใจ Casio ได้ในการสร้างนาฬิกาอันน่าทึ่งที่โลกไม่เคยพบมาก่อน
1970s | 1980s | 1990s | 2000s | 2010s - 20s
1974
Casiotron
กำเนิดนาฬิกา Casio
อะไรคือแก่นแท้ของการบอกเวลา ตามความหมายตรงตัว “นาฬิกาใช้นับแต่ละวินาทีที่ผ่านไป” แนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Casiotron ด้วยนาฬิกาที่ปฏิวัติวงการนี้ Casio ได้นำเทคโนโลยี LSI ดั้งเดิมจากธุรกิจเครื่องคิดเลขมาสู่ตลาดนาฬิกา Casiotron นั้นถูกสร้างขึ้นบนแนวคิดของนาฬิกาข้อมืออัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ ที่ไม่เพียงแต่จะแสดงชั่วโมง นาที และวินาที แต่ยังสามารถแสดงเดือน วันที่ และวันในรอบสัปดาห์ได้อย่างถูกต้อง โดยจะปรับตามจำนวนวันของเดือนโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชันปฏิทินอัตโนมัตินี้นับว่ามีขึ้นเป็นครั้งแรกในนาฬิกาดิจิตอล ทำให้นาฬิกา Casio มีความโดดเด่นและเป็นที่สนใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในด้านของ การแสวงหาเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
นาฬิกา Casiotron (กลุ่มผลิตภัณฑ์ QW02-10) นั้นมีราคา 58,000 เยน ซึ่งเกือบจะเท่ากับเงินเดือนเริ่มต้นของผู้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นปี 1974 นาฬิกาดิจิตอลในฐานะสินค้าหรู — อีกหนึ่งนวัตกรรมของ Casio มีรุ่นต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบกลม แบบสี่เหลี่ยม แบบบาง รวมไปถึงรุ่นที่มีหน้าปัดทองคำ 18K เพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของแต่ละคน การปรับปรุงนาฬิกา Casiotron ในรุ่นต่อๆ มาได้รวมถึงด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งบางรุ่นมีระยะเวลานานถึงเจ็ดปี
1976
เปิดสายการประกอบสำหรับ Casiotron โดยเฉพาะ
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น Hachioji Factory ได้เปลี่ยนจากการผลิตเครื่องคิดเลขไปสู่การผลิตนาฬิกา Casiotron ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาด สายการผลิตนั้นมาพร้อมกับเครื่องประกอบอัตโนมัติและอุปกรณ์ทดสอบล่าสุด โดยเริ่มดำเนินการในปี 1976 ต่อมา ได้มีการเสริมประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างการผลิตด้วยการให้โรงงานนอกประเทศญี่ปุ่นผลิตตัวเรือนและส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจนาฬิกามีรากฐานที่มั่นคงยิ่งขึ้น
1976
Casiotron X-1
นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่มีห้าฟังก์ชันการใช้งาน
Casiotron เรือนแรกนั้นมีฟังก์ชันบอกเวลาปกติ (แสดงชั่วโมง, นาที, วินาที, เวลาก่อนเที่ยง/เวลาหลังเที่ยง, เดือน, วันที่ และวันในรอบสัปดาห์) และปฏิทินอัตโนมัติ ต่อมา Casiotron X-1 ได้เพิ่มนาฬิกาจับเวลา ตัวนับ เวลารอบโลก และเวลาสองระบบ ทำให้เป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่มีมากถึงห้าฟังก์ชันการใช้งาน นวัตกรรมใหม่นี้เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีการติดตั้งด้วยความหนาแน่นสูงที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Casio ที่ช่วยลดขนาดและความหนาของชิ้นส่วนต่างๆ ขณะที่ประหยัดพื้นที่ภายในตัวเรือน นาฬิการุ่นนี้สามารถตอบสนองความต้องการของโลกได้อย่างไร้พรมแดน โดยไม่เพียงแค่รวมฟังก์ชันต่างๆ สำหรับการใช้งานในแต่ละวัน แต่ยังรวมถึงฟังก์ชันสำหรับธุรกิจและสันทนาการ Casio นำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประโยชน์ใช้สอยรูปแบบใหม่ๆ และกำหนดอนาคตใหม่ให้กับนาฬิกาดิจิตอล
1976
นิทรรศการ Hannover Messe
Casiotron X-1 ได้รับการเปิดตัวที่ Hannover Messe ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก ท่ามกลางนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านจากนาฬิกาแบบกลไกไปสู่นาฬิกาแบบควอตซ์ และการแพร่หลายอย่างรวดเร็วของนาฬิกาดิจิตอล ทำให้นี่ไม่ใช่นาฬิกาดิจิตอลทั่วไป แต่เป็นนาฬิกาคอมพิวเตอร์ ซึ่งนำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ ด้วยฟังก์ชันถึงห้ารายการ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดั้งเดิมของ Casio นั้นช่วยเติมเต็มคำนิยามของนาฬิกาข้อมือ จารึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางอุตสาหกรรม
1977
Casiotron สำหรับผู้หญิง
นาฬิกาดิจิตอลสำหรับสตรีล้ำสมัย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Casiotron ได้ขยายไปสู่นาฬิกาที่เพรียวบางและกะทัดรัดยิ่งขึ้น ตัวเลือกระหว่างตัวเรือนกลมหรือสี่เหลี่ยมและสายโลหะหรือสายหนัง ช่วยให้คุณผู้หญิงสามารถเลือกนาฬิกาที่เหมาะกับเครื่องแต่งกายของตน นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาทองคำ 18K ที่จะเสริมความหรูหราขึ้นไปอีกระดับ ประโยชน์ใช้สอยของนาฬิกาดิจิตอลพร้อมด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากชื่นชอบ Casio และขยายฐานผู้ใช้ให้กว้างยิ่งขึ้น
1978
F-100
ตัวเรือนเรซินที่แข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบา
นาฬิกามัลติฟังก์ชัน F-100 มีตัวเรือนเรซินที่แข็งแกร่ง และการออกแบบปุ่มด้านหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งวัยรุ่นและวัยเก๋า นาฬิการุ่นนี้ทำให้นาฬิกาที่มีตัวเรือนเรซินเป็นที่นิยมในยุคที่นาฬิกาส่วนใหญ่มีตัวเรือนเป็นแบบโลหะ นวัตกรรมนี้เป็นก้าวแรกสู่การออกแบบและการสร้างนาฬิกา Casio ในอนาคต รวมถึง G-SHOCK ที่สามารถส่งมอบโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและกันกระแทกได้ด้วยเรซิน
1979
สร้าง Hamura R&D Center เสร็จ
Hamura R&D Center ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีของ Casio ได้เปิดขึ้นที่นครฮามูระของโตเกียว ศูนย์แห่งนี้ได้ทำการวิจัยที่เป็นรากฐานและครอบคลุมด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม การมุ่งเน้นอีกอย่างหนึ่งคือการฝึกอบรมให้กับวิศวกร ซึ่งนับเป็น 25% ของพนักงานที่ Casio มีในตอนนั้น ได้มีการเพิ่มอาคารหลังที่สองในปี 1983 และหลังที่สามในปี 1990 ศูนย์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่พัฒนานาฬิกาข้อมือหลังจาก Casiotron รวมไปถึง G-SHOCK รุ่นแรก DW-5000C ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1983
1979
ก่อตั้งบริษัท Yamagata Casio Co., Ltd.
Yamagata Casio Co., Ltd. ซึ่งเปิดตัวในนครฮิงาชิเนะของจังหวัดยามางาตะเป็นฐานการผลิต เริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบในเดือนเมษายนของปีถัดมา ที่นี่ อุปกรณ์อันล้ำสมัยของโรงงานสนับสนุนการติดตั้งชิ้นส่วนขนาดเล็กและการติดตั้งแบบใช้ความหนาแน่นสูง เสริมด้วยสายการผลิตแบบอัตโนมัติและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้บริษัทยังมีการผลิตด้วยแบบหล่อและเครื่องหล่อเรซินระดับโลก ต่อมา เมื่อนวัตกรรมเคลื่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตระดับนาโน บริษัทได้ส่งมอบการผลิตที่มีความแม่นยำสูง โดยสร้างชิ้นส่วนต่างๆ ตั้งแต่เฟืองขนาดเล็กที่มีความละเอียดอ่อน ไปจนถึงตัวเรือนและส่วนประกอบหน้าปัดคุณภาพเยี่ยม
1970s | 1980s | 1990s | 2000s | 2010s - 20s
