2012
GB-6900
นาฬิการุ่นแรกของโลกที่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth® 4.0
G-SHOCK นี้ใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth® เพื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน นอกจากนาฬิกาจะปรับเวลาอัตโนมัติด้วยข้อมูลจากสมาร์ทโฟนแล้ว ยังส่งการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า อีเมล และอีกมากมาย เพียงแค่แตะ นาฬิกาก็จะหยุดเสียงเรียกเข้าและการเตือนแบบสั่น ด้วยฟังก์ชันการค้นหาโทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถทำให้สมาร์ทโฟนของตนเล่นเสียงได้โดยการกดปุ่มบนนาฬิกา แม้จะมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายทั้งหมดนี้ นาฬิกาก็ยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ประมาณสองปี
การเปิดตัวอันน่าตื่นตาตื่นใจของรุ่น GB-6900 นี้ เป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของนาฬิกาข้อมือ การผสมผสานความสะดวกสบายของสมาร์ทโฟนเข้ากับความสามารถในการสวมใส่ของนาฬิกาข้อมือ เทคโนโลยีอันเป็นนวัตกรรมนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบนาฬิกา Casio รุ่นอื่นๆ มากมาย ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคดิจิตอล
2012
สายการผลิตระดับพรีเมียมได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ
สายการผลิตระดับพรีเมียมก่อตั้งขึ้นที่ Yamagata Casio เพื่อการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ MR-G และนาฬิการะดับไฮเอนด์อื่นๆ โดยเฉพาะ ผู้รับผิดชอบสายการผลิตพิเศษนี้คือ “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่มีทักษะสูง ซึ่งได้รับการรับรองตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กำหนดโดย Casio พนักงานชั้นยอดเหล่านี้ ซึ่งได้รักษาระดับความสามารถทางเทคนิคสูงสุดเอาไว้ ใช้ทักษะและความรู้สึกที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างประณีต ร่วมกับวิศวกรรมดิจิตอลที่มีความแม่นยำ เพื่อสร้างส่วนประกอบแต่ละชิ้น ความหลงใหลอันท่วมท้นและความใส่ใจในทุกรายละเอียดได้ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยความสมบูรณ์แบบในระดับที่สูงกว่าที่เคย
2014
EQB-500
นาฬิกา Casio อะนาล็อกรุ่นแรกพร้อมการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
EDIFICE EQB-500 เป็นนาฬิกา Casio อะนาล็อกรุ่นแรกที่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth® และเสริมด้วยการชาร์จไฟโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อนาฬิกาจับคู่กับสมาร์ทโฟนแล้ว ไม่เพียงแต่จะปรับเวลาโดยอัตโนมัติ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้จัดการการตั้งค่านาฬิกาบนแอปสมาร์ทโฟนได้ง่ายกว่าการใช้งานเม็ดมะยมและปุ่มต่างๆ บนนาฬิกา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันถ่ายโอนข้อมูลตัวจับเวลาที่สะดวกสำหรับรับชมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ EDIFICE ฟังก์ชันการทำงานที่รวบรวมเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มศักยภาพของนาฬิกาอะนาล็อกให้สูงสุด
2014
GPW-1000
นาฬิการะบบไฮบริดที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุและ GPS รุ่นแรกของโลก ซึ่งเสริมด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์
G-SHOCK รุ่นนี้เป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้การรับข้อมูลเวลาจากสองระบบที่แตกต่างกัน ได้แก่ สัญญาณ GPS และคลื่นวิทยุเวลามาตรฐานที่ส่งจากหกสถานีทั่วโลก โดยปกติแล้ว นาฬิกาจะปรับเวลาโดยอัตโนมัติโดยใช้สัญญาณคลื่นวิทยุ แต่เมื่ออยู่นอกขอบเขต ก็จะใช้ข้อมูลเวลาและตำแหน่งจากดาวเทียม GPS เพื่อรับรองถึงข้อมูลเวลาที่แม่นยำทุกแห่งทั่วโลก เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถนี้ นาฬิกายังมอบประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งซึ่งจำเป็นต่อการทนต่อสภาวะอันรุนแรงในทุกที่ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ การปรับปรุงฟังก์ชัน GPS ที่ใช้ครั้งแรกในรุ่น PRT-1GPJ ในปี 1999 อย่างก้าวกระโดดและการเพิ่มนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้นาฬิการุ่นนี้สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความท้าทายที่ไม่มีวันสิ้นสุดของ Casio ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี
2014
STB-1000
นาฬิกาสปอร์ตที่ซิงค์กับแอปฟิตเนสบนสมาร์ทโฟน
นาฬิการุ่นนี้สามารถใช้คู่กับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth® ได้ ในขณะที่แสดงการแจ้งเตือนจากแอปสมาร์ทโฟน นาฬิกายังช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลการออกกำลังกายส่วนบุคคลจากแอปฟิตเนสยอดนิยม รวมถึงเพซและระยะทางการวิ่ง ชีพจร ความเร็วในการปั่นจักรยาน และการหมุนแป้นเหยียบจักรยาน แน่นอนว่าการวัดด้วยตัวจับเวลาก็สามารถทำได้จากตัวนาฬิกาเอง ด้วยความสามารถในการวัดเวลารอบ/ช่วงและการจัดเก็บข้อมูลจำนวน 120 รอบไว้ในหน่วยความจำ STB-1000 จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้รักกีฬาทุกประเภท
2016
WSD-F10
(Smart Outdoor Watch)
นาฬิกากลางแจ้งรุ่นแรกของ Casio ที่ใช้ Android Wear OS
ความมหัศจรรย์นี้เป็นที่รู้จักในชื่อนาฬิกา Casio Smart Outdoor Watch ซึ่งทนทานต่อการใช้งานกลางแจ้งอันทรหด โดยสามารถกันน้ำได้และมีคุณสมบัติระดับมาตรฐานทางการทหาร เซนเซอร์ในตัวติดตามการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ การเคลื่อนไหวร่างกาย และอื่นๆ นาฬิกาทำงานบน Android Wear OS ซึ่งมีฟังก์ชันการวัดกิจกรรมสำหรับการเดินป่า ปั่นจักรยาน ตกปลา และอื่นๆ โดยใช้แอปเฉพาะของ Casio หรือแอป Android อื่นๆ นาฬิการุ่นนี้ใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่น่าประทับใจของ Casio ในการพัฒนานาฬิกาสำหรับการใช้งานด้านกีฬาและกลางแจ้งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้ใช้ชื่นชอบประโยชน์ใช้สอยในฐานะอุปกรณ์สวมข้อมือที่บุกเบิกวิธีใหม่ๆ ในการเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก
2017
ยอดจัดส่งนาฬิกา G-SHOCK ครบ 100 ล้านเรือนทั่วโลก
Casio ได้จัดส่ง G-SHOCK ครบ 100 ล้านเรือน G-SHOCK ได้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่น DW-5000C ในเดือนเมษายน ปี 1983 โดยมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในโครงสร้างที่ทนต่อแรงกระแทก ซึ่งพิสูจน์แนวคิดที่ว่านาฬิกาไม่จำเป็นต้องแตกหักเมื่อตกหล่น แบรนด์ G-SHOCK ยังคงพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกในเรื่องความแข็งแกร่งอันเหนือชั้นและโลกทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ หลังจากจัดส่งได้ 10 ล้านเรือนในปี 1996 และ 50 ล้านเรือนในปี 2009 ก็ได้บรรลุเป้าหมายสำคัญที่ 100 ล้านเรือนในปี 2017 แรงผลักดันของ G-SHOCK ยังคงแข็งแกร่งและดึงดูดแฟนๆ รายใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน
2017
G-SHOCK ได้นำยานพาหนะที่หนักที่สุดมาขับทับนาฬิกาเพื่อทำลายสถิติของกินเนสส์
เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของ G-SHOCK ซึ่งขึ้นชื่อว่าสามารถทนต่อสภาวะที่รุนแรงได้ นาฬิการุ่น DW-5600E ที่เป็นทายาทสายตรงของ DW-5000C รุ่นแรกเริ่มได้ถูกรถบรรทุกหนัก 24.97 ตันขับทับเพื่อพยายามได้รับบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ว่าเป็นยานพาหนะที่หนักที่สุดในการขับทับนาฬิกา DW-5600E ไม่เพียงแค่รอดพ้นจากการทดสอบ แต่ยังทนทานต่อน้ำหนักของรถบรรทุกโดยไม่มีรอยแตกบนตัวเรือนหรือสาย และยังคงบอกเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ G-SHOCK และความแข็งแกร่งระดับตำนานได้ทำลายสถิติในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ
2018
โรงงานผลิตนาฬิกาที่ Yamagata Casio สร้างเสร็จสมบูรณ์
โรงงานนาฬิกาแห่งใหม่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วที่ Yamagata Casio ซึ่งเป็นฐานการผลิตในญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้รวมการผลิตส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลิตในโรงงานที่แยกจากกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โรงงานแห่งนี้เชี่ยวชาญในการผลิตส่วนประกอบโรเตอร์และเฟืองขับเคลื่อนด้วยความแม่นยำระดับไมครอน ช่างเทคนิคเฉพาะด้านใช้ทักษะขั้นสูงจัดการทุกอย่างตั้งแต่การใช้เครื่องจักรและปรับการประกอบไปจนถึงการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์
2018
GPR-B1000
รุ่นแรกของโลกที่มีระบบนำทางด้วย GPS ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
รุ่น GPR-B1000 มีฟังก์ชันระบบนำทางด้วย GPS ซึ่งรวบรวมข้อมูลตำแหน่งจากดาวเทียม GPS เพื่อแสดงตำแหน่งปัจจุบันในเส้นทางหรือทิศทางไปยังจุดหมายปลายทางแบบเรียลไทม์ ชาร์จนาฬิกาด้วย USB หรือชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม ตั้งแต่การสวมใส่ในแต่ละวันไปจนถึงการออกไปผจญภัย เซนเซอร์สามตัวช่วยให้วัดระดับความสูง/ความดันบรรยากาศ ทิศทางของเข็มทิศ และวัดอุณหภูมิได้ ในขณะที่การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนมอบฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย G-SHOCK นี้ได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด แม้กระทั่งภารกิจที่ต้องเอาชีวิตรอด
2020
GBD-H1000
G-SHOCK พร้อมตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจและฟังก์ชัน GPS
นอกเหนือจาก GPS แล้ว นาฬิการุ่นนี้ยังมีการวัดค่าแบบเรียลไทม์เพื่อรองรับกิจกรรมของผู้ใช้ที่หลากหลาย มีเซนเซอร์ออปติคัลสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เซนเซอร์ 3 ตัวสำหรับวัดความดันบรรยากาศ/ระดับความสูง ทิศทางของเข็มทิศ และอุณหภูมิ รวมถึงตัววัดอัตราเร่งเพื่อนับก้าวและอีกมากมาย อัลกอริธึมที่ประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลที่วัดได้ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของการฝึกในระดับที่ละเอียดมากได้ นอกเหนือจากทั้งหมดนี้ แอปที่ออกแบบมาโดยเฉพาะยังอำนวยความสะดวกในการจัดการการออกกำลังกายในแต่ละวันอีกด้วย รับมือกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาดด้วย G-SHOCK รุ่นนี้ที่มาพร้อมความทนทานและฟังก์ชันทั้งหมดที่ผู้ใช้ต้องการเพื่อเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง
2023
DW-H5600
นาฬิกา G-SHOCK MOVE ใหม่ที่มีดีไซน์แปดเหลี่ยมและตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ
นาฬิกาสำหรับกีฬาหลายประเภทนี้มาพร้อมฟังก์ชันสำหรับการติดตามการออกกำลังกายต่างๆ วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยเซนเซอร์ออปติคัลและใช้ตัววัดอัตราเร่งในการนับก้าว คุณสามารถเข้าถึงไลบรารีสมาร์ทวอทช์ PolarTM เพื่อวิเคราะห์การออกกำลังกาย ติดตามการฟื้นตัวหลังการนอน และสนับสนุนการฝึกหายใจ หรือแม้แต่วัดระดับออกซิเจนในเลือด ไม่ว่าจะวิ่ง เดิน หรือออกกำลังกาย อุปกรณ์ที่จำเป็นนี้มีจอ LCD ความละเอียดสูงแบบ Memory in Pixel (MIP) เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนและอ่านง่ายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ความแข็งแรงและสุขภาพที่แท้จริงก็มาพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่เราผลิตกรอบและสายข้อมือจากเรซินชีวภาพ พลาสติกชีวมวลผลิตจากวัสดุอินทรีย์หมุนเวียน เป็นวัสดุสังเคราะห์โมเลกุลสูง และเป็นวัสดุทางเคมีหรือทางชีวภาพที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ชาร์จด้วย USB หรือพลังแสงอาทิตย์ เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับทุกกิจกรรม
2023
G-SHOCK ได้รับเครื่องหมายการค้าสามมิติเป็นครั้งแรกสำหรับผู้ผลิตนาฬิกาในญี่ปุ่น
สำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่นให้การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสามมิติสำหรับรูปทรงของ G-SHOCK รุ่นแรก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 3 มิติในญี่ปุ่นสำหรับรูปทรงของนาฬิกาข้อมือเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีโลโก้หรือข้อความ (ทะเบียนหมายเลข 6711392) กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5000 ซึ่งประกอบด้วยนาฬิกาที่สืบทอดรูปทรงของนาฬิการุ่นแรก แสดงถึงจุดกำเนิดของแบรนด์ และเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ G-SHOCK ที่ขายได้ยาวนานที่สุด คงไว้ซึ่งรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงมานานกว่า 40 ปีนับตั้งแต่รุ่นแรก นาฬิกา G-SHOCK ได้รับการยอมรับแม้จากรูปทรงนาฬิกาเพียงอย่างเดียว
2023
โปรเจกต์ใหม่ของ G-SHOCK ได้เริ่มขึ้นแล้ว: VIRTUAL G-SHOCK
แบรนด์ G-SHOCK ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวชุมชนเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถร่วมสร้างและโต้ตอบกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล เช่น NFT และ Metaverse การเปิดร้าน G-SHOCK เสมือนจริงและการจำหน่ายสินค้า G-SHOCK เรนเดอร์สามมิติแบบดิจิตอลเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของแผนใหม่และประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนที่จะมาถึง
